10 กลยุทธ์การตลาด ให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ในการสร้างแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อาหารเสริม หรือเครื่องสำอาง มีเพียงแบรนด์และสินค้าเท่านั้นยังไม่เพียงพอ การที่ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักจะต้องอาศัยกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งกลยุทธ์การตลาด ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหนก็ตาม เพื่อให้แบรนด์ หรือสินค้าของแบรนด์เข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด

โดยแต่แต่ละองค์กรก็จะเลือกกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันออกไป ตามความสามารถ ความถนัด หรือการตอบรับจากผู้บริโภค วิธีการไหนที่ได้รับผลตอบรับดีก็มักจะเลือกใช้เป็นอันดับแรก ๆ และใช้อย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ที่เริ่มต้นจากศูนย์ อาจยังไม่รู้ว่ากลยุทธ์ทางการตลาดมีอะไรบ้าง และแต่ละวิธีเป็นอย่างไร ในวันนี้โควิก เคทท์ จึงจะพาไปรู้จักกับ 10 กลยุทธ์การตลาดที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จได้ โดยมีดังต่อไปนี้

โซเชียลมีเดีย และการทำไวรัล (Viral)

ปัจจุบันนี้อะไรที่ได้เป็นกระแส หรือเป็นไวรัล มักจะได้รับความนิยมและความสนใจมาก ซึ่งการตลาดรูปแบบนี้จะเป็นการโฟกัสไปที่การสร้างคอนเทนต์ที่ผู้อ่านชอบ รู้สึกถึงคุณค่าของเนื้อหา และแชร์ผ่านโซเชียล ส่งผลให้ให้มีการมองเห็นเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การแชร์เนื้อหา วิดีโอ และรูปภาพบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Twitter, YouTube และ Instagram ยังช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา หรือ SEO มากขึ้น ทั้งนี้จากผลสำรวจพบว่า 61% ของบริษัทใช้โซเชียลเพื่อต้องการเพิ่มยอดขาย

ซื้อโฆษณาออนไลน์ (Online Advertising)

ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ ในบางครั้งก็ต้องมีการเสียเงินบ้าง ซึ่งการใช้เงินซื้อสื่อเป็นเครื่องมือที่บริษัทต่าง ๆ ใช้ในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านการโฆษณา หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการจ่ายต่อคลิก Pay-per-click คือทุกครั้งที่มีการคลิกโฆษณา บริษัทจะจ่ายเงินให้กับเครื่องมือค้นหา เช่น Google เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่คลิกลิงก์

กระบวนการนี้เรียกโดยทั่วไปว่าการทำ Search Engine Marketing หรือ SEM ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าลูกค้าที่ใกล้จะตัดสินใจซื้อ 65% จะคลิกโฆษณาแบบชำระเงิน

การตลาดอินเทอร์เน็ต หรือการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)

การตลาดรูปแบบนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างเว็บไซต์และอีเมล เพื่อโฆษณาและกระตุ้นยอดขายอีคอมเมิร์ซ อาจมีการรวมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อส่งเสริมแบรนด์ ผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งการตลาดรูปแบบนี้มักใช้ร่วมกับการโฆษณาแบบดั้งเดิมด้วยเช่น วิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์

การตลาดอีเมล (Email Marketing)

เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูแลและสร้างยอดขายจากลูกค้าเป้าหมาย การตลาดผ่านอีเมลนั้นจะเป็นกระบวนการอัตโนมัติที่กำหนดเป้าหมายไปยังผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าและลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งความสำเร็จของการตลาดทางอีเมลวัดจากอัตราการเปิดอ่านและอัตราการคลิกลิงก์ในอีเมล แต่การตลาดอีเมลก็มีข้อเสียคือ มีโอกาสที่ถูกมองว่าเป็นสแปมได้

การตลาดแบบขายตรง (Direct Marketing)

เป็นการทำการตลาดและการขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคโดยตรง เป็นรูปแบบที่ตัวแทนขายสร้างความสัมพันธ์แบบเห็นหน้ากับบุคคลนอกพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งมักจะเป็นการนัดพบกันที่บ้านของลูกค้า

การตลาด ณ จุดซื้อ (POP)

Point of Purchase Marketing หรือ POP เป็นการขายให้กับนักช้อปที่อยู่ในร้านและพร้อมที่จะซื้อทันที โดยนักพูดที่อยู่ที่ร้านกล่าวถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ ข้อเสนอพิเศษ และบอกตำแหน่งของสินค้าที่วางโชว์อยู่ โดยจะใช้เสียงที่ดังกว่าการคุยกัน 2 คน เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่อยู่ในบริเวณร้านค้า ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าได้มากขึ้น

การตลาดแบบสร้างแบรนด์ร่วม (Co-Branding Marketing)

การตลาดแบบสร้างแบรนด์ร่วม เป็นวิธีการทางการตลาดที่มีแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถืออย่างน้อย 2 แบรนด์มาร่วมกัน เพื่อส่งเสริมและขายผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียว ซึ่งเป็นการเพิ่มการรับรู้ถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ดังนั้นผู้บริโภคจะมีแนวโน้มที่จะซื้อและยินดีที่จะจ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกดการยกระดับการตลาดและเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ได้

การตลาดเชิงสนทนา (Conversational Marketing)

การตลาดรูปแบบนี้จะเป็นเพียงการสนทนาเท่านั้น โต้ตอบแบบเรียลไทม์ผ่านแชทบอทหรือแชทสดต่อผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า ช่วยตอบคำถามต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ และรับการตอบคำถามในทันที โดยทั่วไปจะช่วยลดเวลาที่ผู้ซื้ออยู่ในกระบวนการขายเกิดขึ้นเร็วกว่าเพราะสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้เร็วกว่า

การตลาดแบบใช้สื่อที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ

การตลาดที่เป็นรูปแบบการประชาสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นนอกเหนือจากการโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบเช่น การทำ Testimonial บนโซเชียลมีเดีย การบอกแบบปากต่อปาก การถูกพูดถึงผ่านทางโทรทัศน์หรือวิทยุ รวมไปถึงบทความในหนังสือพิมพ์หรือบทบรรณาธิการ ซึ่งการถูกพูดถึงในลักษณะนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ได้ค่อยข้างมาก

แต่การตลาดรูปแบบก็มีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน นั่นก็คือ ยอดการรับชมจะมาในรูปแบบที่เป็นออแกนิกเท่านั้น แลแบรนด์ไม่สามารถควบคุมได้ รวมถึงไม่สามารถซื้อได้เหมือนกับการโฆษณา

การเล่าเรื่อง (STORYTELLING)

เป็นรูปแบบการสื่อสารเพื่อดึงดูดผู้บริโภคในระดับอารมณ์ แทนที่จะบอกเล่าข้อเท็จจริงและตัวเลข การเล่าเรื่องช่วยให้แบรนด์สร้างเรื่องราวที่น่าจดจำว่าบริษัทของคุณเป็นใคร ทำอะไร แก้ปัญหาอย่างไร และให้คุณค่ากับอะไร รวมถึงวิธีที่แบรนด์มีส่วนร่วมในชุมชนและสาธารณชนทั่วไป ซึ่งการที่แบรนด์มี STORYTELLING ที่ดีจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์เชิงบวกกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

สรุป

กยุทธ์ทางการตลาดแต่ละวิธีนั้น มีวิธีการทำและผลลัพธ์ที่ต้องแตกต่างกันไป แต่ผลลัพธ์หลักที่ต้องการจากกลยุทธ์เหล่านี้ก็คือ ให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ หรือตัวแบรนด์เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย และสามารถขยายออกไปนอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมายได้ ซึ่งการจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักหรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้น เจ้าของแบรนด์ควรเลือกใช้กลยุทธ์ที่ถนัด หรือเหมาะกับแบรนด์มากที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมามีประสิทธิภาพ

แหล่งที่มา : www.shiftyourfuture.com

โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี

บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง

จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร  มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888