ปั้นแบรนด์ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ 7Ps Marketing
การตลาดนั้น ถือเป็นส่วนสำคัญอีกทางหนึ่งสำหรับการสร้างแบรนด์ เพราะการทำการตลาดจะช่วยให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นั้นเป็นที่รู้จักและเป็นที่สนใจ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง สกินแคร์ต่าง ๆ เนื่องจากธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาตลอดเวลา หากการตลาดไม่ดีนั้นอาจทำให้แบรนด์หายจากไปการแวดวงนี้อย่างง่ายดาย

โดยในสายการตลาดที่ต้องมีการวางกลยุทธ์อาจจะต้องรู้จักคำว่า 4Ps Marketing อย่างแน่นอน เพราะสิ่งนี้คือส่วนประกอบของการทำการตลาดนั่นเอง แต่ในปัจจุบันที่โลกในได้มีการพัฒนาในหลาย ๆ ด้าน รวมไปถึงความต้องการของผู้บริโภคด้วย กลยุทธ์ 4Ps Marketing ก็อาจไม่เพียงพออีกต่อไป จึงได้มี 7Ps Marketing เกิดขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นมาจาก 4Ps นั่นเอง แล้วทำไมต้อง 7Ps ทั้งสองกลยุทธ์มีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาด ทางโควิก เคทท์ จะมาแนะนำกลยุทธ์การตลาดแบบ 7Ps Marketing ให้ได้รู้กัน
4Ps และ 7Ps Marketing แตกต่างกันอย่างไร
4Ps Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่จะเน้นให้ความสำคัญกับสินค้าเป็นหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย Product, Price, Place และ Promotion เพื่อคิดค้นกลยุทธ์ที่จะทำให้สินค้าเข้าไปถึงผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าสินค้าของคู่แข่งด้วยเช่นกัน
แต่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและปัจจัยหลายอย่างรอบตัวผู้บริโภค ส่งผลให้พฤติกรรมของพวกเขาย่อมแปรผันตามความต้องการในสินค้ายังมีอยู่ แต่ความต้องการในเรื่องการบริการที่ดีและประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจที่พวกเขาคาดหวังจากแบรนด์เริ่มสูงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น 4Ps จึงได้แตกขยายเพิ่มออกมาอีก 3 ปัจจัย จนเป็น 7Ps นั่นเอง ซึ่ง 7 ปัจจัยนี้มีความจำเป็นกับการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing มาก ๆ
7Ps Marketing มีอะไรบ้าง
- Product
- Price
- Promotion
- Place
- People
- Process
- Physical Evidence
Product
Product นั้นไม่ได้หมายความถึง “สินค้าและบริการ” เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงลักษณะของสินค้าที่สามารถสื่อให้ผู้บริโภคเห็นถึงความเป็น “แบรนด์” ได้อีกด้วย โดยทางแบรนด์จำเป็นต้องหา Insight และเขียน Personal ของลูกค้าก่อนว่าคือใคร มีความชอบแบบไหน พฤติกรรมเป็นอย่างไร หรือศึกษาได้จาก Feedback ของลูกค้าที่เคยใช้งานสินค้าและบริการของแบรนด์มาก่อน เพื่อยกระดับสินค้าให้ออกมาดีและน่าพึงพอใจยิ่งขึ้น
Price
Price หรือราคา เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ โดยนโยบายด้านราคาของแต่ละแบรนด์เพื่อนำมาเป็นรูปแบบในการตั้งราคาของสินค้าและบริการที่จะกระจายออกไปจำหน่ายในตลาด ซึ่งโดยปกตินั้นการตั้งราคาจะถูกมองว่าเป็นการสร้างกำไรให้กับแบรนด์ แต่การตั้งราคาก็ส่งผลพฤติกรรมผู้บริโภคเช่นเดียวกันเพราะว่าผู้บริโภคก็มองหาราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่เต็มใจจะจ่าย
ดังนั้นหากแบรนด์ตั้งราคาสินค้าหรือบริการไว้สูง พร้อมด้วยคุณภาพของสินค้าและบริการที่ดีเยี่ยม เหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้ ลูกค้าก็จะเต็มใจจ่ายในเกณฑ์ราคานี้ แต่ถ้าสินค้าและบริการดูไม่ค่อยมีคุณภาพหรือเหมาะสมกับเกณฑ์ราคาที่ตั้งไว้ ผู้บริโภคอาจจะรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจที่จะจ่ายสักเท่าไหร่
Promotion
Promotion หมายถึงวิธีการที่แบรนด์ใช้สื่อสารกับผู้บริโภค ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่แบรนด์ต้องวางกลยุทธ์ตาม Segmentation ของผู้บริโภคที่เตรียมไว้ในส่วน Product นั่นเอง โดยที่ปัจจัยตัวนี้จะส่งผลกับธุรกิจมากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจช่องทางที่จะทำการตลาดให้สินค้าและบริการของแบรนด์ เพราะไม่ใช่ว่าทุกข้อความจะสามารถส่งไปถึงผู้ฟังได้จากทุกช่องทาง
Place
Place แปลตามตัวก็คือสถานที่ที่ทางแบรนด์จะกระจายสินค้าและบริการเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ โดยอาจจะนึกถึงการขายของตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ หรือร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่ทุกหัวมุมถนน แต่นั้นเป็นเพียงวิธีการแบบ Offline เท่านั้น ในทุกวันนี้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมลูกค้า การที่แบรนด์สามารถวางสินค้าในที่ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อได้จากหน้าจอโทรศัพท์ ย่อมสร้างความสะดวกสบายได้ดี
People
People เป็นปัจจัยที่ครอบคลุมถึงการที่พนักงานของแบรนด์สื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้มีส่วนร่วมอื่น ๆ ในขณะระหว่างการซื้อขายหรือบริการก่อนและหลังการขายกับลูกค้า ซึ่งในการทำ Digital Marketing นั้นการมีส่วนร่วมหรือความช่วยเหลือของพนักงานส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของของลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมลหรือตอบข้อความบนเว็บไซต์ หรือแม้แต่ Chatbot ก็ส่งผลด้วยเช่นกัน
Process
Process หรือวิธีการหรือกระบวนการที่ทางแบรนด์ใช้ในการทำงานเพื่อเข้าถึงและประยุกต์ใช้กลไกทางการตลาดกับสินค้าของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้า การทำ PR โปรโมทแบรนด์ หรือแม้แต่การเข้าถึงลูกค้าโดยการ Customer Service ก็ตาม โดย Process นั้นจะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าใจผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น และสร้าง Customer Experience ได้ดียิ่งขึ้น
Physical Evidence
Physical Evidence ถ้าให้แปลตรงตัวก็คือ หลักฐานที่จับต้องหรือพิสูจน์ได้ แต่ถ้าในบริบทของ Marketing Mix นั้นสิ่งนี้จะครอบคลุมถึงประสบการณ์ที่จับต้องได้ที่ลูกค้าได้รับจากแบรนด์ รวมไปถึงสินค้าและบริการจากแบรนด์ อย่างเช่นการสร้างเว็บไซต์ในการขายสินค้าของแบรนด์ ควรมีดีไซน์สวย สามารถใช้งานง่าย จ่ายเงินสะดวก และส่วน Support ผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น FAQ, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล หรือแม้แต่ Chatbot ที่ลูกค้าสามารถถามได้ตลอด 24 ซม.
สรุป
7Ps Marketing เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีความสำคัญกับแบรนด์ เพื่อให้สินค้าสามารถรองรับความต้องการผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยทาง 4Ps นั้นจะเน้นไปทาง Offline เท่านั้น แต่ 7Ps จะเน้นไปทาง Online หรือ Digital Marketing ด้วย ดังนั้นการมีความแม่นยำในกลยุทธ์ย่อมเป็นการสร้างแบรนด์ที่ดี
แหล่งที่มา : contentshifu.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888
