อาหารเสริม

รู้จริงเรื่องอาหารเสริม จากปากผู้เชี่ยวชาญ

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ ”เสริม” เข้ามา ซึ่งในปัจจุบันนั้นกระแสของการทานอาหารเสริมก็ดังมากและอยู่ในกระแสมาอย่างยาวนาน ส่งผลให้มีแบรนด์อาหารต่าง ๆ ออกมาแพร่หลาย รวมไปถึงธุรกิจโรงงานรับผลิตอาหารเสริมที่เติบโตตามขึ้นไปด้วย

อาหารเสริม

แต่กระแสของอาหารเสริมที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดก็คือ การทานอาหารเสริมนู่นนั่นนี่ จะช่วยป้องกันหรือเสกสร้างสารพัดสิ่งวิเศษให้แก่สุขภาพของเราได้อยู่ไม่ขาด ดังนั้นก่อนที่เราจะตามกระแสการทานอาหารเสริมใด ๆ ลองมาฟัง ดร.นพ.ปณต จาก See Doctor Now ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาหารเสริม รวมถึงเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้อาหารเสริมกันก่อน ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปดูกันเลย

อาหารเสริม คืออะไร ?

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplements) คือ อาหารชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 เพราะฉะนั้นการบริโภคอาหารเสริม ก็สามารถบริโภคได้ในลักษณะที่เป็นอาหารชนิดหนึ่ง ไม่สามารถอวดอ้างสรรพคุณว่ามีฤทธิ์ในการรักษาโรค บรรเทาอาหารเปลี่ยนแปลงร่างกาย หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต่าง ๆ ของร่างกายทุกชนิดได้ เพราะว่าไม่มีใครหรือหน่วงงานใดมารับรอง

เหมือนกับเราทานอาหาร ขนม ซึ่งอยู่ในภายใต้พระราชบัญญัติอาหารเหมือนกัน แม้รูปร่างหน้าตาของมันจะมีลักษณะคล้ายยา เช่น เป็นเม็ด แคปซูล ผงชงดื่ม แต่ก็ไม่ใช่ยา เพราะอะไรที่จะถูกจัดให้เป็นยานั้น ต้องมีการขึ้นทะเบียนตำรับยา ทั้งในต่างประเทศและทะเบียนตำรับยาในประเทศไทย อันนี้จะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2522

และยาแตกต่างกับอาหารเสริมอย่างมาก การจะขึ้นทะเบียนตำรับยาได้นั้น ต้องมีการพิสูจน์เชิงประจักษ์ทางหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ยาตัวนั้นมีผลออกฤทธิ์ตามที่กล่าวอ้างจริง ๆ เช่น ยาตัวนี้เมื่อทานเข้าไปแล้วภายในเวลา 30 นาทีจะลดหรือหายจากอาการปวดหัว ก็จะมีสรรพคุณนี้เขียนอยู่ในฉลากยา อะไรก็ตามวัตถุออกฤทธิ์ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการทำงานของร่างกาย เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกาย ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาทั้งหมดไม่ใช่อาหาร อาหารเราทานเพื่ออยู่ แต่ยาเราทานเพื่อรักษาโรค ทำให้การทำงานของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป

หน้าที่ขององค์การอาหารและยา คือ ดูเอกสารที่ส่งมาเพื่อขึ้นทะเบียนยา ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ถ้าขอเป็นอาหารเสริม มีสรรพคุณเพื่อบำรุงร่างกาย ถ้าเข้าเกณฑ์การเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ก็รับรองให้ตราอย. แต่คนที่เอาไปทำอย่างอื่นต่อเมื่อได้ตรานั้นมาแล้ว มันต้องเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม และเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วยที่จะไม่โกงคนอื่น การพูดเกินจริงมันคือการหลอกลวง มันก็ทำให้คนสับสนได้

เลือกอาหารเสริมอย่างไรให้ปลอดภัย

วิธีสังเกต อาหารเสริม อย่างแรกต้องดูก่อนว่ามี อย.หรือเปล่า ถ้าไม่มีให้ทิ้งไปเลย เพราะของที่ถือว่าเป็นอาหารทุกชนิด ต้องมีอย.รับรอง อย.จะรับรองว่าอาหารตัวนี้ปลอดภัย ซึ่งอย.จะรับรองแค่ว่าอาหารตัวนี้ปลอดภัยนะครับ ไม่ได้รับรองสรรพคุณอะไร แต่ถ้าเป็นยาจะไม่มีอย. จะเขียนบนฉลากว่าเป็นตำรับยา มีเลขตำรับยา

อย่างที่สองให้ดูที่ฉลากว่าอาหารเสริมนั้นมีสรรพคุณว่าอย่างไร ส่วนใหญ่จะมีสรรพคุณทั่วไปว่าใช้บำรุงร่างกาย จะเขียนแค่นั้น แต่เวลาโฆษณาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง มีการโม้ขึ้นมา ทานแล้วขาว ทานแล้วผอม จะสังเกตได้ง่ายๆ ว่าของไหนที่ไม่ได้มีสรรพคุณนั้นจริง จะจดทะเบียนเป็นอาหารเสริมแล้วอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง โดยไม่ได้ระบุในฉลากของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ซึ่งจริง ๆ ผิดตามพระราชบัญญัติโฆษณานะครับ

การที่อวดอ้างว่าทานแล้วทำให้หายโรค ทานแล้วตื่นมากระปรี้กระเปร่า มีสุขภาพดี กินแล้วฉลาด รักษาได้ทุกโรคเลย ถ้ามันมีจริง ๆ คงรวยระดับโลกแล้ว ต้องดูด้วย อย่างบางบริษัทที่ใหญ่ระดับโลก เขาคงไม่กล้าโฆษณาเกินจริง เพราะเรื่องราวพวกนี้มันค่อนข้างรุนแรง ต้องมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก พวกนี้จะไม่ค่อยโฆษณาเกินจริงเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเอง ส่วนมากจะเกินจริง ที่สำคัญเลยให้ดูที่ฉลากว่ามีสรรพคุณอะไร มีอย.รับรองไหม

เราจำเป็นจะต้องทาน อาหารเสริม หรือไม่ ?

อย่างที่บอก มันเสริมเข้ามา และมันคืออาหารชนิดหนึ่งที่ใช้กิน เพื่อเสริมจากอาหารที่ทานอยู่ ถ้าเกิดทานอาหารดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องทานอาหารเสริมก็ได้ อาหารเสริมคืออาหารชนิดหนึ่ง จะทานหรือไม่ทานก็ได้แล้วแต่ชอบ และบางอาหารเสริมก็ไม่ได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณา

ถ้าถามว่าจำเป็นต้องทานไหม ตอบเลยว่าไม่จำเป็น แต่ถ้าอยากทานก็ทานได้ อย่างเช่นถามว่าคนเราต้องดื่มเหล้าหรือเปล่า ก็แล้วแต่คน ถ้าอยากทานก็ทานไปเถอะ แต่ไม่ใช่ว่าทานอาหารเสริมแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรต่อร่างกายนะ ถ้าถามว่าควรทานเพื่อรักษาโรคอะไรบ้างอย่าง หรือเพื่อให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อันนี้บอกได้เลยว่าไม่จริง

ข้อระวังเกี่ยวกับอาหารเสริม

เรื่องของการส่งผลเสียต่อร่างกาย อย่างแรกต้องดูว่าที่เราทานคืออะไร อย่างที่สองคือต้องดูปริมาณที่ทานเข้าไป

ยกตัวอย่างเช่น วิตามินที่ทานเข้าไป ถ้าเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำจะไม่ค่อยมีปัญหาในการทานเกิน เช่น วิตามินซี วันนี้กิน 100 มิลลิกรัม วันต่อมาทาน 3000 มิลลิกรัม ทานติดต่อกันไปสามเดือน ก็ไม่เป็นไรนะ เพราะมันถูกขับออกทางปัสสาวะหมด ถ้าร่างกายนำไปใช้อย่างเพียงพอแล้ว ร่างกายมันไม่เก็บไว้ มันทิ้งหมด ถ้าเราทานเกินก็ไม่มีปัญหาเรื่องการสะสม ก็เหมือนเราไม่ได้กินอะไรไป

ส่วนวิตามินเอ ดี อี เค เป็นวิตามินชนิดที่ไม่ละลายในน้ำนะครับ ละลายในไขมันเท่านั้น แล้วร่างกายไม่ได้ขับไขมันออก น้ำร่างกายเราขับออกทางปัสสาวะ เหงื่อ ลมหายใจ แต่ไขมันไม่ได้ถูกขับออก เลยต้องถูกเผาผลาญออกเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้ากินวิตามินเอ ดี อี เคไปเรื่อย ๆ มันสะสม และก่อให้เกิดโรคที่ผิดปกติ ไม่ควรทานเกินที่ควรจะทาน

วิตามินในทางการแพทย์ ตามปกติหมอจะเป็นผู้สั่งให้คนไข้ทานในบางคน ในกรณีที่มีหลักฐานชัดเจนว่า คนไข้ขาดวิตามินบางชนิด เช่น คนไข้มาด้วยโรคลักปิดลักเปิด หมอต้องรักษาคนไข้คนนี้ด้วยการให้วิตามินซีเสริมเข้าไป วิตามินเหล่านี้ถือเป็นอาหารเสริม ซึ่งการให้ในทางการแพทย์มีข้อบ่งชี้เดียวคือ ในกรณีที่คนไข้ขาด การที่จะบอกว่าคนๆ นี้ขาด คือแสดงอาการ หรือไปเจาะตรวจ แต่ก็แพง ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเจาะ ถ้าเราไม่มีอาการอะไร ก็แสดงว่าร่างกายเราปกติ ถ้าผิดปกติ มันจะแสดงอาการ

การดูโรงงานที่ผลิตอาหารเสริมก็สำคัญ

อาหารเสริมที่ดี ย่อมต้องมาจากโรงงานอาหารเสริมที่ดี เพราะฉะนั้นเวลาที่เลือกซื้ออาหารเสริมสักตัวหนึ่ง ควรที่จะดูให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบ สารสกัดต่าง ๆ คำเตือน ตราอย. และรวมไปถึงชื่อโรงงานผลิต เพื่อที่เราจะได้นำชื่อโรงงานแห่งนั้นไปตรวจสอบในอินเตอร์เน็ตว่าเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานหรือไม่ โดยโรงงานที่ได้มาตรฐานควรมี ใบรับรอง ต่อไปนี้

  • ISO
  • HACCP
  • GMP
  • HALAL
  • อย.

ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคเท่านั้นที่ควรดูใบรับรองเหล่านี้จากโรงงาน เจ้าของแบรนด์หรือผู้ริเริ่มสร้างแบรนด์อาหารเสริมก็ควรตรวจสอบเช่นกัน เพราะมันจะเป็นตัวยืนยันว่าโรงงานที่เราสนใจหรือเลือกผลิตอาหารเสริมด้วยนั้นมีคุณภาพและปลิดภัย เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสู่มือผู้บริโภคล

สรุป

อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ ”เสริม” เข้ามา ไม่ใช่ตัวที่จะสามารถทานเป็นอาหารหลักได้ ดังนั้นควรทานอาหารเสริมให้เหมาะสม พอดีกับความต้องการ และควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล

หน้าแรก

TOP