เผยเคล็ดลับสร้างแบรนด์ครีมให้กำไรพุ่ง
ครีม เป็นหนึ่งในเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้ เนื่องจากในปัจจุบันการดูแลผิวพรรณเป็นที่นิยมมากขึ้น และไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องการดูแลผิวพรรณของตนเอง ผู้ชายเองก็เริ่มหันมาดูแลตัวเองแล้วเช่นกัน จึงทำให้ตลาดแบรนด์ครีมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีแบรนด์ครีมต่าง ๆ เกิดขึ้นมาอย่างมีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
ด้วยการเติบโตนี้จึงทำให้มีผู้คนสนใจอยากจะผลิตครีมเป็นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งการสนใจหรือความชอบนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก จึงทำให้มีการผลิตออกมาจำหน่ายมากมายหลายแบรนด์ ถ้าหากคุณเพียงแค่อยากมีแบรนด์แต่ไม่ได้ศึกษาการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จหรือสร้างกำไรเลย แบรนด์ของคุณอาจขาดทุนได้ โดยทางในวันนี้ทาง Kovic ก็จะมาเผยเคล็ดลับสร้างแบรนด์ครีมให้กำไรพุ่งให้ผู้คนที่สนใจผลิตครีมได้นำไปปรับใช้กับแบรนด์ของตัวเองกัน
วางแผนสร้างแบรนด์ครีม
การที่จะมีสินค้า หรือครีมออกมาจำหน่ายสู่ท้องตลาดนั้น ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการวางแผนการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินการภายในแบรนด์เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพในการสร้างแบรนด์เบื้องต้น ในการวางแผนควรมีการตั้งเป้าหมายอย่างคร่าว ๆ เอาไว้ จัดตั้งแผนก และแจกแจงหน้าที่การรับผิดชอบการดำเนินงานด้านต่าง ๆ
อย่างเช่นถ้าเราเป็นแบรนด์ขนาดเล็ก เป็นกิจการภายในครอบครัว หรือเป็นกลุ่มเพื่อนที่ลงทุนร่วมกัน ก็ควรวางแผนแจกแจงว่าใครจะทำหน้าที่อะไร รับผิดชอบอะไร ใครดูแลบัญชี ใครติดต่อลูกค้า ใครดูแลเรื่องการส่งสินค้า ทั้งหมดนี้ต้องมีการวางแผนให้ชัดเจนเพื่อให้การดำเนินงานภายในแบรนด์เป็นไปอย่างราบลื่นไม่ขัดข้อง
หาข้อมูลการผลิตแบรนด์ครีม
การจะทำครีมขาย หากไม่รู้เรื่องครีมเลยก็คงจะไม่ดีนัก คุณควรมีการหาข้อมูล ทำการค้นคว้าเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับครีม รวมไปถึงข้อมูลทางด้านการออกแบบ การขาย การทำการตลาด หรือถึงแม้ว่าคุณใช้บริการโรงงานที่เป็นแหล่งครบวงจรคอยดูแลด้านต่าง ๆ ของครีมให้ตั้งแต่ต้นจนจบ คุณก็ควรมีความรู้เบื้องต้นไว้ด้วย เพื่ออย่างน้อยเวลาที่ต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของคุณเอง จะได้สามารถแจกแจงรายละเอียดได้ เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าคุณใส่ใจในขั้นตอนผลิตสินค้าของแบรนด์อย่างแท้จริง
ตั้งกลุ่มเป้าหมาย
จะขายสินค้าอย่างขายแบบเลื่อนลอย ดังนั้นการมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจึงเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ กลุ่มเป้าหมายจะเป็นตัวกำหนดกลไกต่าง ๆ ของสินค้า อย่างเช่นถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณต้องมาดูว่ามีสารอะไรบ้างที่ไม่สามารถใส่ไปในผลิตภัณฑ์ของคุณได้
ถ้ากลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา จะตั้งราคาของผลิตภัณฑ์อย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายสามารถซื้อได้อย่างต่อเนื่อง และหากกลุ่มเป้าหมายคือ หนุ่มสาววัยทำงาน จะเน้นให้ผลิตภัณฑ์ของคุณดูแลในเรื่องใด กันแดด กันริ้วรอย ช่วยเรื่องความหมองคล้ำจากมลภาวะ หรือปกป้องผิวจากแสงคอมพิวเตอร์ จะเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะกำหนดทิศทางของผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์
สร้างคาแรคเตอร์ให้แบรนด์
หลังจากที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว อันดับต่อมาก็คือการวางคาแรคเตอร์ให้กับแบรนด์ เพื่อความสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณดูน่าสนใจมากขึ้น โดยเริ่มต้นตั้งแต่วางคอนเซ็ปต์สินค้าว่ามีที่มาอย่างไร จุดขายของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวโยงกับความต้องการของลูกค้าและภาพรวมของการวางแผนการสื่อสารกับลูกค้า ว่าจะใช้ข้อความ หรือจุดขายอย่างไรให้เข้าถึงและตรงใจกับลูกค้ามากที่สุด ทั้งนี้คาแรคเตอร์แบรนด์ถือเป็นหัวใจสำหรับผลิตภัณฑ์ เพราะสินค้าทุกชิ้นที่วางขาย ต้องคงคาแรคเตอร์และคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าผูกพันกับตัวสินค้า
แผนการตลาด
การวางแผนการตลาดเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ ในการเป็นเจ้าของแบรนด์โดยเฉพาะแบรนด์ครีมซึ่งมีการแข่งขันสูง กลุ่มเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนดวางแผนการทำการตลาดให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับตัวผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้จะต้องสอดคล้องกับการตั้งราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาดอีกด้วย เทคนิคสำคัญของการตั้งราคาอยู่กลุ่มลูกค้าของคุณ ยินดีจ่ายเงินซื้อสินค้าในราคาเท่าไหร่ และสินค้านั้นคุ้มค่าที่กลุ่มลูกค้าจะจ่ายเงินซื้อหรือไม่
เจาะลึกสูตรครีม
เมื่อคุณจะเริ่มทำครีมขาย คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าครีมที่ขายในท้องตลาดมีแบบไหนบ้าง และกลุ่มลูกค้านิยมครีมประเภทไหนอยู่ เพื่อที่คุณจะได้รู้ความต้องการของลูกค้าและสามารถกำหนดเนื้อผลิตภัณฑ์ในสินค้าของคุณได้ ซึ่งปัจจุบันประเภทครีมเป็นที่นิยมในท้องตลาดมักเป็นลักษณะเนื้อครีม เจล เจลลี่ เอสเซ้นส์ หรืออื่น ๆ ยอกจากนี้ยังสามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกได้ดังนี้
- Whitening ผลิตภัณฑ์ที่เน้นให้ผิวขาวใส
- Anti Wrinkle ผลิตภัณฑ์ที่เน้นในเรื่องของการลดเลือน ต่อต้านริ้วรอย
- Anti-Aging ครีมที่เน้นเรื่องของการชะลออายุผิว เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว
- Tightening ครีมที่เน้นไปที่การกระชับผิวไม่ว่าจะเป็นหน้าหรือลำตัว
- Pore Minimizing ครีมที่เน้นไปที่การดูแลรูขุมขน กระชับรูขุมขน
- Anti-Acne ผลิตภัณฑ์ที่เน้นไปที่การดูแลปัญหาสิว
นอกจากนี้การเลือกครีมที่จะวางขายยังสามารถพิจารณาได้จาก คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นครีมที่เน้นไปที่เรื่องการดูแลรอยแผลเป็นจากสิว ผิวขรุขระ ปัญหาฝ้า ครีมกันแดด ครีมบำรุงรอบดวงตา ครีมลดริ้วรอย ครีมเติมความชุ่มชื้นหรือจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มการเช็ดล้างเครื่องสำอาง การทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งนี้เราก็ต้องวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่คุณจะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายได้
กำหนดกลุ่มสินค้า
การกำหนดกลุ่มสินค้าอาจดูไม่สำคัญ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้ผู้บริโภค หรือกลุ่มลูกค้าของคุณเห็นว่าคุณมีทิศทางการดำเนินแบรนด์ไปในทางใด ยกตัวอย่างเช่น วาง Positioning ของแบรนด์ไว้ว่าจะเป็นผู้นำในการผลิตเครื่องสำอาง นั่นหมายความว่าจุดแข็งของแบรนด์จะโฟกัสไปที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นหลัก
อย่างไรก็ดีการกำหนดกลุ่มสินค้า ควรคำนึงที่กลุ่มเป้าหมายควบคู่กันไปด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไร ชื่นชอบสินค้าชนิดไหน เพื่อที่ว่าหากสินค้าวางขายออกมาแล้วจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในความสนใจของลูกค้าและพวกเขายอมที่จะจ่ายเงินซื้อ
เอกลักษณ์ และรูปแบบที่น่าสนใจ
การสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าโดดเด่นออกมาในท้องตลาด ท่ามกลางการแข่งขันสูง เพราะในท้องตลาดมีสินค้าให้เลือกมากมาย หากคุณทำสินค้าที่ไม่โดดเด่นและไม่แตกต่างเพียงพอ ก็อาจจะทำให้สินค้าของคุณไม่น่าจดจำ และไม่น่าซื้อได้
การสร้างเอกลักษณ์ อาจจะทำได้ด้วยการศึกษาคู่แข่งเพื่อลองหาความแตกต่าง อาจจะสร้างเรื่องราวของแบรนด์ อาจจะเน้นเป็นที่ตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติหรือส่วนประกอบที่แตกต่าง เน้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ หรือการโฆษณาที่แปลกใหม่ก็ได้เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ
สร้างตัวตนที่น่าเชื่อถือ
การสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ในปัจจุบันทำได้อย่างง่ายดาย เช่นการสร้างเว็บไซต์ซึ่งปัจจุบันมีบริการเว็บไซต์สำเร็จรูป หรือสามารถจ้างบริษัทให้ออกแบบและดูแลเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งในหน้าเว็บเพจของคุณ ก็ควรมีข้อมูลของร้าน สินค้า และบริการต่าง ๆ แจกแจงไว้อย่างละเอียดด้วย เพื่อให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลของร้านคุณได้ อย่างที่อยู่ของบริษัท ที่ตั้งหน้าร้าน หรือเบอร์โทรศัพท์ เมื่อลูกค้าเห็นข้อมูลเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และช่วยในเรื่องของการตลาดได้เป็นอย่างดี
กฎหมายต่าง ๆ
การมีความรู้ในข้อกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ครีมของคุณประสบความสำเร็จอย่างเช่น กฎหมายการโฆษณาสินค้า อาหารเสริม การจดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสูตรครีม การขอการรับรองจากองค์กรต่าง ๆ เพื่อยืนยันว่าครีมของเราปลอดภัย ได้มาตรฐาน ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าของเรา และนำมาสู่การซื้อสินค้าของคุณอย่างต่อเนื่อง
สรุป
การสร้างแบรนด์ครีมให้มีกำไรพุ่งนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ทำการตลาดดี การสร้างตัวตนหรือคาแรคเตอร์ให้กับแบรนด์ การเจาะลึกสูตรครีม หรือการตั้งกลุ่มลูกค้าเท่านั้น แต่การผลิตครีมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์เช่นกัน เพราะถ้าหากผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพ ก็ยังส่งผลถึงภาพลักษณ์ต่าง ๆ ชองแบรนด์ด้วย
แหล่งที่มา : www.beautycosmet.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888