เจาะลึกขั้นตอนพัฒนาและขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน และยังรับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นยาสมุนไพร ยาดม หรือยาหม่องเป็นต้น และด้วยความเป็นอยู่ของคนไทยที่อยู่กับสมุนไพรมานาน ทำให้มีเจ้าของแบรนด์มากมายที่มีความสนใจผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับสมุนไพรอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่าของแบรนด์ควรรู้ก็คือ ขั้นตอนพัฒนาและขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร
เนื่องจากขั้นตอนพัฒนาและขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพรนั้นจะมีความซับซ้อนและใช้ระยะเวลาที่นานกว่าการผลิตอาหารเสริม หรือผลิตครีม ดังนั้นเหล่าของแบรนด์อาจจะต้องใช้เวลากับขั้นตอนตรงนี้อยู่พอสมควร ทำให้หลายคนสงสัยว่ามีความซับซ้อนเพียงใด และเหตุใดจึงต้องใช้เวลานานกว่าจะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้ วันนี้โควิก เคทท์ จะพาทุกท่านไปเจาะลึกขั้นตอนพัฒนาและขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง และใช้เวลาเท่าไหร่
การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
กระบวนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน โดยเริ่มจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า จากนั้นจะทำตัวอย่างผลิตภัณฑ์และนำส่งตัวอย่างเพื่อทำการทดลอง เมื่อได้รับ Feedback กลับมา ทีมพัฒนาจะสรุปสูตรและคำนวณต้นทุนการผลิต เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนต่อไปในกระบวนการผลิต
การขอทะเบียนผลิตภัณฑ์
กระบวนการขอทะเบียนผลิตภัณฑ์ใช้เวลารวมประมาณ 337 วัน เริ่มต้นด้วยการยื่นคำขอผลิตตัวอย่างและผลิตตัวอย่างซึ่งใช้เวลาในแต่ละขั้นตอนละประมาณ 7 วัน จากนั้นตัวอย่างจะถูกนำส่งเพื่อตรวจวิเคราะห์ตามประกาศภายในระยะเวลา 90 วัน เมื่อการตรวจวิเคราะห์เสร็จสิ้น จะเข้าสู่ขั้นตอนการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนและประเมินวิชาการ ซึ่งใช้เวลา 233 วัน ก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะได้รับการอนุมัติและพร้อมจำหน่าย
สิ้นสุดกระบวนการ
เมื่อกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขอทะเบียนเสร็จสมบูรณ์ ผลิตภัณฑ์จะได้รับใบสำคัญหรือทะเบียนผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นเอกสารที่ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติตามมาตรฐานที่กำหนด ทำให้สามารถวางจำหน่ายในตลาดได้อย่างถูกต้องและมั่นใจในคุณภาพ
รูปแบบผลิตภัณฑ์สมุนไพร มีแบบไหนบ้าง
ผลิตภัณฑ์สมุนไพรมีรูปแบบที่หลากหลายเพื่อรองรับการใช้งานทั้งภายนอกและรับประทาน สำหรับการใช้งานภายนอกมีตั้งแต่ยาหม่อง, ยาน้ำมัน, สเปรย์อัดแก๊ส, ครีม, เจล, ยาดมหรือพิมเสนน้ำ ไปจนถึงยาดมที่ทำจากชิ้นส่วนสมุนไพร ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทานมีรูปแบบเป็นยาชงหรือผงชง, ชาผง, แคปซูลแข็ง และยาน้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการและความสะดวกในการใช้งานของผู้บริโภค
เลือกโรงงานผลิตสมุนไพร: ก้าวสู่ความสำเร็จในตลาดสุขภาพ
การเลือกโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคมองหาทางเลือกที่เป็นธรรมชาติและดีต่อสุขภาพนี่คือขั้นตอนและข้อควรพิจารณาในการเลือกโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เหมาะสม
- ตรวจสอบประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ : เลือกโรงงานที่มีความเชี่ยวชาญในประเภทผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ เช่น โรงงานที่รับผลิตยาสมุนไพร หรือครีมสมุนไพร
- การรับรองมาตรฐาน : เช่น GMP ISO และ HACCP
- ความสามารถในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ : โรงงานที่ดีควรมีความสามารถในการปรับแต่งสูตรผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของคุณ ทั้งในเรื่องของส่วนผสม บรรจุภัณฑ์
- การบริการลูกค้า : ควรเลือกโรงงานที่มีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษา และสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888