ทำความรู้จัก SPF และ PA ก่อนผลิตครีมกันแดด
แสงแดดในประเทศไทยเป็นปัจจัยหลักที่ทำร้ายผิว แม้จะกางร่มหรืออยู่ในที่ร่มก็ไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่ ทำให้ครีมกันแดดกลายเป็นไอเทมสำคัญในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นเรื่องค่า SPF หรือ PA ส่งผลให้เจ้าของแบรนด์จำนวนมากสนใจเข้าสู่ตลาดนี้ หากคุณกำลังมองหาโอกาสผลิตครีมกันแดด การทำความเข้าใจเรื่องค่า SPF และ PA ถือเป็นพื้นฐานสำคัญก่อนเริ่มต้นพัฒนาผลิตภัณฑ์

Table of Contents
ค่า SPF คืออะไร
ค่า SPF (Sunburn Protection Factor) คือค่าที่แสดงความสามารถของครีมกันแดดในการป้องกันผิวไหม้แดงจากรังสี UVB ยิ่งค่า SPF สูง ยิ่งช่วยปกป้องผิวได้นานขึ้น การเลือกค่า SPF จึงขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น SPF 10-15 เหมาะกับคนที่อยู่ในร่ม, SPF ≥15 สำหรับผู้ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งบ้างระหว่างวัน และ SPF ≥30 เหมาะกับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งมาก หรือผู้ที่มีผิวไวต่อแสงแดด
ระดับ SPF ปกป้องผิวได้เท่าไหร่
- SPF 15 : ปกป้องผิวจากอาการไหม้แดดมากกว่าผิวปกติ 15 เท่า สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ 93.3%
- SPF 30 : ปกป้องผิวจากอาการไหม้แดดมากกว่าผิวปกติ 30 เท่า สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ 96.7%
- SPF 50 : ปกป้องผิวจากอาการไหม้แดดมากกว่าผิวปกติ 50 เท่า สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ 98%
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนั้นจะเห็นได้ว่า SPF เป็นค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB เท่านั้น ในปัจจุบันครีมกันแดดจึงได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันรังสี UVA เพิ่มขึ้นด้วย แต่การวัดประสิทธิภาพของการป้องกัน UVA ยังไม่มีมาตรฐานสากล
ค่า PA คืออะไร
ค่า PA หรือ Protection Grade of UVA คือค่าระดับความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ระบุค่าความสามารถเป็นจำนวนเครื่องหมายบวก ดังนี้
- PA+ คือความสามารถในการป้องกันผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 2-4 เท่า
- PA++ คือความสามารถในการป้องกันผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 4-8 เท่า
- PA+++ คือความสามารถในการป้องกันผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ 8-16 เท่า
- PA++++ คือความสามารถในการป้องกันผิวจากความหมองคล้ำได้มากกว่าผิวปกติ มากกว่า 16 เท่า
โดยผิวปกติคือ ผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด
ค่า SPF บนหลอดครีมกันแดด มีที่มาอย่างไร
ค่า SPF เป็นค่าที่ได้จากการทดลองในห้องทดลอง วิธีการของ SPF เป็นการกำหนดภาวะผิวหนังแดง (Erythema) เนื่องจากการทำลายโดยแสงแดด เป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดย FDA ในสหรัฐอเมริกา และ COLICA ในยุโรป จะเป็นการกำหนดปริมาณของแสง UV ที่น้อยที่สุดที่ทำให้เกิดรอยแดงเนื่องจากแสงแดด หรือ Minimal Erythema Dose (MED)
สิ่งที่ต้องรู้เมื่อคิดจะผลิตครีมกันแดด
ในการสร้างแบรนด์ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไรก็ตาม สิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต่างต้องการก็คือหนีไม่พ้นการที่แบรนด์ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะตลาดครีมกันแดดที่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างมากมาย ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องการสร้างแบรนด์ครีมกันแดด คุณจะต้องรู้สิ่งเหล่านี้ก่อน
- ศึกษาคู่แข่ง : การศึกษาคู่แข่งนั้นเพื่อให้เรารู้ถึงพฤติกรรมตลาดแบรนด์ และได้รู้ถึงจำนวนคู่แข่งที่จะช่วยการวางแผนสร้างแบรนด์ได้อย่างรอบคอบ
- สร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์ : หากแบรนด์ของเราไม่มีอะไรที่เป็นจุดเด่นพอที่จะดึงดูดผู้บริโภค ไม่ช้าแบรนด์ของเราอาจหายไปไหนสายตาผู้บริโภคในพริบตา ดังนั้นเราจึงควรสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดดที่สามารถเป็นทั้งกันแดดและรองพื้น หรือกันแดดที่สามารถปกปิดริ้วรอยได้
- อย่ากลัวที่เริ่มต้น : เราต้องไม่กลัวที่จะเริ่มต้น ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งเยอะ แต่ถ้าหากไม่เริ่มต้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร
สรุป
ค่า SPF เป็นค่าที่คอยบ่งบอกการป้องกันรังสี UVB ส่วนค่า PA จะเป็นค่าป้องกันรังสี UVA ในการสร้างแบรนด์ครีมกันแดดนั้น เจ้าของแบรนด์ควรรู้ว่าค่า SPF และค่า PA ระดับใดถึงจะเหมาะกับผิวของผู้บริโภคตามกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากค่า SPF ที่สูงไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยป้องกันผิวได้ดี ถ้าหากกลุ่มผู้บริโภคของแบรนด์อยู่แต่ในห้องที่ไม่ค่อยได้โดนแสงแดดเลย
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888
