ครีมกันแดดมีกี่ประเภท

หลายคนอาจจะสัมผัสได้ว่า นับวันสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งภัยที่เป็นเงาตามตัวภายในสภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ก็คือ แสงแดด โดยสิ่งที่มาพร้อมกับแสงแดดก็คือรังสี UV หากผิวพรรณของเรานั้นโดนรังสี UV บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวพรรณได้

หลายคนอาจเข้าใจว่าภัยจากแสงแดดนั้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เช่น อาการแสบ บวม แดง ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันอาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง แต่หารู้ไม่ว่าภัยจากรังสีอัลตราไวโอเลตนั้นจะถูกสะสมไปเรื่อย ๆ อยู่ในร่างกายของเราตั้งแต่วัยเด็กเป็นระยะเวลาต่อเนื่องตลอดช่วงอายุของเรา ซึ่งกว่าอาการต่าง ๆ จะปรากฏก็นานจนแทบไม่รู้สาเหตุแล้ว ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งผิวหนัง และความชราก่อนวัยอันควร

ดังนั้นเราจึงจะต้องดูแลและป้องกันผิวพรรณของเราเพื่อไม่ให้เกิดผลร้ายแรงต่อไปในอนาคต โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการทา ครีมกันแดด แต่ทว่าครีมกันแดดนั้นก็มีหลากหลายประเภท หากใช้ผิดประเภทก็อาจไม่เห็นผลลัพธ์เท่าที่ต้องการ ดังนั้นวันนี้ทางโควิกจะพาไปรู้จักประเภทของครีมกันแดดกัน

ครีมกันแดด คืออะไร

ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด (Sunscreen agent) เพื่อใช้ทาผิวสำหรับป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่มีต่อผิวหนังได้แก่ รังสีอัลตร้าไวโอเลต A (UVA), รังสีอัลตร้าไวโอเลต B (UVB) และรังสีที่ตามองเห็น (Visible Light) เพราะคนเราสามารถหลบจากแสงแดดได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้ง และถึงแม้การได้รับแสงแดดในเวลาไม่นาน แต่หากได้รับบ่อย ก็จะทำให้ภูมิต้านทานของเซลล์ผิวหนังลดลง และสะสมจนเกิดมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน

นอกจากนั้น แสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหนังเสื่อมสภาพ และเกิดปัญหาที่ผู้คนไม่ต้องการ อาทิ เกิดรอยเหี่ยวย่น เกิดตีนกา ผิวหน้าหมองคล้ำ และหยาบกร้าน เกิดกระ เกิดฝ้า จนผิวหน้าดูแลแก่กว่าวัยอันควร จนจะต้องหาตัวช่วยให้การบำรุงผิวพรรณ เช่น ครีมบำรุงผิว ,การทาน คอลลาเจน เป็นต้น

ชนิดของรังสี UV

  • รังสี UVC มีช่วงคลื่นยาว 100 – 280 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานสูงสุด แต่ส่วนมากจะถูกดูดซับไว้ด้วยโอโซนทั้งหมดในชั้นบรรยากาศของโลก
  • รังสี UVB มีช่วงคลื่นยาว 280 – 320 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานรองลงมาจาก รังสี UV มีผลทำให้ผิวหนังเกิดการอาการผื่นแดง เกิดอาการแสบร้อน และไหม้ โดยเฉพาะผู้แพ้แสงแดดง่ายหรือมีการตากแดดเป็นเวลานาน
  • รังสี UVA มีช่วงคลื่นยาว 320 – 400 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีพลังงานต่ำที่สุด เมื่อได้รับรังสีชนิดนี้จะมีผลต่อสภาพปัญหาผิวหนัง อาทิ ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย เกิดความหมองคล้ำ กระ และฝ้า จนผิวแลดูแก่กว่าวัย

ประเภทครีมกันแดด

แบ่งตามคุณสมบัติ

ครีมกันแดดดูดซับรังสี (Chemical Sunscreen)

ครีมกันแดดประเภทนี้ ประกอบด้วยสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการดูดซับรังสีไว้ได้ ทำให้รังสีบางส่วนมาสัมผัสกับผิวหนัง แต่จะปล่อยรังสีในช่วงคลื่นอื่นออกมาหลังการดูดซับไว้ แต่เป็นช่วงคลื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง สารที่ใช้ผสมและมีคุณสมบัติดูดซับรังสีได้ ได้แก่

  • oxybenzone
  • PABA
  • salicylates
  • cinnamates
  • ฯลฯ

ทั้งนี้ครีมกันแดดประเภทนี้มีข้อดีหลายประการ ได้แก่

  • ไม่มีสีหรือมีสีอ่อน ๆ
  • มีคุณสมบัติในการบำรุงผิว
  • มีราคาถูก

ส่วนข้อเสีย คือ บางคนอาจเกิดอาการแพ้ต่อสารเคมีที่ผสมได้ รวมถึงต้องมั่นทาครีมทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เมื่อต้องตากแดดเป็นเวลานาน ๆ เพราะสารที่ผสมจะดูดซับรังสีไว้ในปริมาณที่จำกัด หากดูดซับไว้เต็มที่แล้วก็จะไม่สามารถดูดซับไว้ได้อีก ทำให้รังสีที่ได้รับต่อมากระทบต่อผิวหนังทั้งหมด

ครีมกันแดดสะท้อนรังสี (Physical Blocker)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มีส่วนผสมหลักของ zinc oxide หรือ titanium dioxide ซึ่งส่วนมากจะเป็นสีขาว และมีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้เกือบทั้งหมด ทำหน้าที่สะท้อน และกระจายรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง และหลังการทาจะมีเนื้อครีมบางส่วนถูกดูดซึมเข้าผิวหนังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น ครีมกันแดดประเภทนี้จึงไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายนัก

ข้อดีของครีมกันแดดประเภทนี้ คือ

  • ไม่สลายตัวง่ายเมื่อสัมผัสกับแสงแดด จึงไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ๆ
  • มีผลทำให้ผิวระคายเคืองน้อย ไม่เกิดอาการแพ้

ครีมกันแดดแบบผสม (Chemical – Physical Sunscreen)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มีส่วนผสมของสารที่มีคุณสมบัติในการดูดวับ และสะท้อนรังสีเข้าด้วยกัน อีกทั้ง ยังช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย เนื้อครีมมีส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นสีขาว น่าใช้มากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวมข้อดี และลดข้อด้อยของครีมกันแดดทั้งสองประเภทข้างต้น ซึ่งปัจจุบัน ครีมกันแดดที่วางจำหน่ายส่วนมากจะเป็นประเภทผสมผสาน

แบ่งตามผลที่มีต่อสีผิว

  • Sun Tan เป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่หลังการทาแล้ว เนื้อครีมจะซึมเข้าสู่เซลล์ผิว และทำหน้าที่เปลี่ยนสีผิวให้เข้มขึ้น แต่ไม่เกิดอันตรายต่อเซลล์ผิวแต่อย่างใด
  • Sunscreen เป็นผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่ทำหน้าที่กรองรังสี กระจายและสะท้อนรังสีไม่ให้เข้าสู่เซลล์ผิวมาก รวมถึงช่วยในการปรับสมดุลของสีผิวที่หมองคล้ำหลังการตากแดด

แบ่งตามส่วนที่ทา

ครีมกันแดดทาหน้า (Sunshade)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มักมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์หรือไททาเนียมไดออกไซด์ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสี UV ได้ทุกชนิด ใช้สำหรับการทาบริเวณที่บอบบาง อาทิ บริเวณใบหน้า ลำคอ และริมฝีปาก

ครีมกันแดดทาตัว (Sunscreen / Sunblock)

ครีมกันแดดประเภทนี้ มักมีส่วนผสมของสารเคมีหลายชนิดที่ผสมผสานกันระหว่างสารเคมีที่ทำหน้าที่ดูดซับ และสะท้อนรังสี UV ซึ่งประสิทธิภาพจะถูกระบุเป็นค่า SPF

สรุป

ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลและป้องกันผิวพรรณจากการโดนทำลายจากแสงแดด ซึ่งการเลือกครีมกันแดดนั่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้การทาครีมกันแดดเป็นเพียงวิธีหนึ่งในการป้องกันผิวจากแสงแดดเท่านั้น ทางที่ดีไม่ควรออกจากข้างนอกเวลาแดดแรงหรือสสวมเสื้อคลุมทับอีกที จะเป็นการช่วยป้องกันผิวอีกทางหนึ่ง

โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน ในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตครีม รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย

แหล่งที่มา

www.siamchemi.com

TOP