4 ประโยชน์ของ Lutein ต่อดวงตาและสุขภาพ
ลูทีน (Lutein) ถือเป็นสารอาหารอันดับต้น ๆ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและป้องกันโรคตาบางชนิด เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก ทำให้ลูทีนเป็นสารอาหารที่ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตอาหารเสริมเกี่ยวกับดวงตาอย่างแพร่หลาย แต่นอกจากนี้ลูทีนจะมีช่วยในเรื่องของสุขภาพสายตานั้น ลูทีนยังสามารถช่วยเรื่องปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างโรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งลำไส้ แต่คุณประโยชน์เหล่านั้นสามารถเชื่อถือได้หรือไม่ ทาง Kovic จะมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน
ลูทีน คืออะไร
ลูทีน (Lutein) เป็นสารอาหารในกลุ่มเดียวกับเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอที่พบได้มากในผัก และผลไม้หลายชนิดเช่น ผักปวยเล้ง บรอกโคลี คะน้า ข้าวโพด กีวี องุ่น ส้ม เป็นต้น เชื่อกันว่าการกินผลไม้เหล่านี้จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากลูทีน นอกจากนี้หลากคนยังนิยมกินอาหารเสริมหรือวิตามินรวมที่มีลูทีนเป็นส่วนประกอบเพื่อสรรพคุณทางยา ซึ่งปรากฏผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของลูทีนในแง่มุมต่าง ๆ
ประโยชน์ของลูทีน
- บำรุงสายตา
- ช่วยเรื่องความจำ
- เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
- บำรุงผิวพรรณ
บำรุงสายตา
เนื่องจากลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดสำคัญที่มีอยู่ในจอประสาทตาขอมนุษย์ หรือเรียกอีกชื่อว่าเม็ดสีจอประสาทตา มีหน้าที่กรองแสงและป้องกันดวงตาจากแสงแดดหรือคลื่นแสงพลังงานสูงอย่างรังสีอัลตราไวโอเลต นักวิจัยหลายคนจึงเชื่อว่า ลูทีน เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการมองเห็นและบำรุงสุขภาพดวงตา โดยเฉพาะแก้วตาและจอประสาทตา
งานวิจัยชิ้นหนึ่งพิสูจน์ข้อสันนิษฐานนี้โดยแบ่งผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรกออกเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับอาหารเสริมแตกต่างกันไปเป็นระยะเวลา 2 ปี ได้แก่ ลูทีน 10 มิลลิกรัม, ลูทีน 20 มิลลิกรัม, ลูทีนและซีแซนทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมชนิดใดทั้งสิ้น ผลการตรวจสุขภาพดวงตาหลังจากนั้นพบว่าผู้ที่กินลูทีนทั้ง 2 กลุ่ม มีจำนวนเม็ดสีในจอประสาทตาเพิ่มขึ้น รวมทั้งจอตาความมีความไวต่อแสงมากขึ้นพอ ๆ กัน การกินอาหารเสริมลูทีนวันละ 10 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลานานจึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาโรคจอประสาทตาเสื่อมในระยะแรก
นอกจากนี้การกินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับโอเมก้า 3 อาจไม่ได้ช่วยบรรเทาอาการของโรคจอประสาทตาเสื่อม ดังปรากฏในงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่าการกินอาหารเสริมลูทีนและซีแซนทีนร่วมกับกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคจอประสาทตาเสื่อมแต่อย่างใด เช่นเดียวกับงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่พบว่าการกินอาหารเสริมลูทีนร่วมกับกรดโอเมก้า 3 ติดต่อกัน 6 เดือนไม่ช่วยให้ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคประสาทตาเสื่อมมาก่อนมีการมองเห็นที่ดีขึ้น โดยสันนิษฐานว่ากรดโอเมก้า 3 จะไปลดประสิทธิภาพของลูทีนในการเสริมสร้างการมองเห็นและการบรรเทาอาการของโรคดังกล่าว
ช่วยเรื่องความจำ
นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นสารอาหารบำรุงสายตาแล้ว ลูทีนยังขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงสมองและเสริมสร้างความจำ โดยเชื่อกันว่าอาจช่วยให้ผู้สูงอายุเสี่ยงความจำเสื่อมน้อยลง งานวิจัยชิ้นหนึ่งแบ่งผู้หญิงในช่วงอายุ 60 – 80 ปี จำนวน 49 รายออกเป็น 4 กลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มกินอาหารเสริมต่างชนิดกัน ได้แก่ กรดไขมัน DHA 800 มิลลิกรัม/วัน ลูทีน 12 มิลลิกรัม/วัน กรดไขมัน DHA และลูทีน หรือไม่ได้กินอาหารเสริมใด ๆ เป็นเวลา 4 เดือน พร้อมเข้ารับการทดสอบความจำและการเรียนรู้
ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่กินลูทีน กรด รดไขมัน DHA และกลุ่มที่กินทั้งกรดไขมัน DHA และลูทีน มีคะแนนความสามารถด้านการใช้ภาษาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่กลุ่มที่กินทั้ง 2 อย่างมีคะแนนด้านความจำและการเรียนรู้มากขึ้นด้วย จึงอาจกล่าวได้ว่าการได้รับกรดไขมัน DHA ควบคู่อาหารเสริมลูทีนช่วยให้ผู้สูงอายุมีความจำดีขึ้นได้
เสริมสร้างสุขภาพหัวใจ
หนึ่งในคุณประโยชน์ของลูทีนที่ได้รับการกล่าวอ้างคือ การป้องกันปัญหาสุขภาพหัวใจ โดยหลายคนเชื่อว่าอาหารเสริมลูทีนอาจช่วยบรรเทาอาการป่วยของโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ งานวิจัยหนึ่งจึงทดลองให้ผู้ป่วยโรคนี้กินอาหารเสริมลูทีนวันละ 20 มิลลิกรัม ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผลปรากฏว่าลูทีนช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายและช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ซึ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมอาการของโรคหลอดเลือดแดงแข็ง
บำรุงผิวพรรณ
ลูทีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงสีฟ้าและปกป้องผิวจากคลื่นแสงพลังงานสูง จึงมีความเชื่อว่าหากรับประทานอาหารเสริม หรือผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนจะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส และมีสุขภาพดียิ่งขึ้น
ประเด็นนี้มีการศึกษากับผู้ที่มีผิวแห้งจำนวน 50 ราย โดยแบ่งให้ผู้เข้าร่วมการทดลองกลุ่มหนึ่งกินอาหารเสริมดังกล่าว ซึ่งผลพบว่าผู้ที่กินอาหารเสริมลูทีนแล้วไม่เกินวันละ 20 มิลลิกรัม เพื่อให้ได้ทั้งประโยชน์และปลอดภัยในคราวเดียวกัน
ทานลูทีนอย่างให้ปลอดภัยและได้ประโยชน์
- ควรรับประทานลูทีนไม่เกินวันละ 7 – 15 มิลลิกรัม
- สตรีมีครรภ์และผู้ในนมบุตรควรเลี่ยงการบริโภคอาหารเสริมลูทีน แนะนำให้รับประทานผัก และผลไม้ที่อุดมไปด้วยลูทีนแทน
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเซลล์เยื่อเมือกที่สร้างสารคัดหลั่ง หรือโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้อาหารเสริมลูทีน เนื่องจากร่างกายของผู้ป่วยอาจดูดซึมสารแคโรทีนอยด์ได้น้อยและส่งผลให้มีระดับลูทีนในเลือดต่ำได้
สรุป
ลูทีน (Lutein) เป็นสารอาหารมีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา ซึ่งสายตานั่นก็เป็นส่วนสำคัญในการมองเห็นของมนุษย์ ดังนั้นนอกจากการดูแลสายตาทั้งการตรวจตา พักสายตาจากสิ่งต่าง ๆ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ การทานอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของลูทีนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยดูแลสายตาได้เช่นกัน
แหล่งที่มา : www.pobpad.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888