Step Marketing ของธุรกิจสุขภาพและความงาม
ธุรกิจสุขภาพและความงามถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้เทรนด์รักสุขภาพนั้นเป็นกระแสอย่างมาก และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ COVID – 19 ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หันมารักษาสุขภาพมาขึ้นทั้งภายในและภายนอก รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นการอุดตัน อับชื้น หรือการเกิดสิวเป็นต้น
ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ธุรกิจสุขภาพและความงามมากมาย จนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ทำให้แบรนด์บางแบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด แต่ในขณะที่บางแบรนด์กลับไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่หวังไว้และหายไปในที่สุด หรือแม้แต่มีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด
แต่การที่มีแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอางต่าง ๆ เกิดขึ้นมามากมายนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่ใหญ่จริง ๆ คือ ในฐานะเจ้าของแบรนด์จะทำอย่างไรที่สามารถทำให้ธุรกิจและแบรนด์ของเรานั้นอยู่รอดและเติบโตเป็นที่รู้จักได้ในสถานการณ์แบบนี้ ดังนั้นในวันนี้ทาง Kovic จึงได้รวบรวม Step Marketing สำหรับธุรกิจสุขภาพและความงามในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ที่ทำตามแล้วแบรนด์ของเราจะไม่จมหายไปจากวงการธุรกิจนี้อย่างแน่นอน
Step 1 : Brand Awearness
การทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์ของตัวเองสักแบรนด์หนึ่งขึ้นมา เปรียบเสมือนเราสร้างตัวตนคน ๆ หนึ่งขึ้นมา ยิ่งปัจจุบันโลกเราเข้าถึงโซเชียลมีเดียมากมาย เราจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวตนของเราขึ้นมาในโลกออนไลน์ด้วย เท่านั้นยังไม่พอต้องทำให้พวกเขาเห็นเราในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook, Instagram, Twitter, Youtube, Google และ Line เป็นต้น
ซึ่งช่องทางเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ของเราได้เข้าถึง ทำความรู้จักกับลูกค้า บอกข่าวสารต่าง ๆ แก่พวกเขา เกิดการซื้อขายเกิดขึ้น และยังสามารถรักษาลูกค้าของเราไว้กับเราไปนาน ๆ ได้อีกด้วย
Step 2 : ทำให้เราเป็นที่สนใจ
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ต้องสามารถทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่พูดถึงให้ได้ และถ้ายิ่งวงกว้างเท่าไหร่ยิ่งดี การทำให้เราเป็นที่สนใจบนโลกออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ เจ๋ง ๆ หรือ คอนเทนต์ที่ตามกระแส ยิ่งเราจับจุดความสนใจของลูกค้ามากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้ว่าคอนเทนต์แบบไหน แนวไหนที่จะโดนใจพวกเขา และทำให้เขารู้สึกอยากติดตามคอนเทนต์เราอยู่ตลอด
แต่อยากลืมว่าการเน้นการขายของมากเกินไปในคอนเทนต์ของเรา จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกยัดเยียดมากเกินไป จะทำให้กลายเป็นไม่อยากติดตามเรา หรือจะเป็นการทำ Search Engine (SEO) ใน Google เพื่อให้เวลาลูกค้าค้นหาสินค้าประเภทเกี่ยวกับสุขภาพหรือความงาม แบรนด์ของเราจะขึ้นมาให้เขาเห็นเราเป็นอันดับต้น ๆ ง่านต่อการเข้าถึงและทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือไปได้ด้วย
Step 3 : เสนอ How to แก้ปัญหาอย่างแนบเนียน
เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักกับเราแล้ว แต่เราก็อยากให้เขาสนิทกับเรามากยิ่งขึ้น มาใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ของเรามากขึ้น คอนเทนต์ How to แก้ปัญหาในเรื่องของสุขภาพความงามต่าง ๆ ที่ลูกค้าประสบพบเจอนั้น จะยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าสนใจ และความอยากสนิทกับเรามากยิ่งขึ้น แบรนด์ของเราอาจจะทำคอนเทนต์ How to ตบเข้าด้วยวิธีรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการมาใช้แบรนด์ของเรานั่นเอง ถือว่าเป็นการขายของไปในตัวก็ว่าได้
Step 4 : เสนอบริการที่ตอบโจทย์
ขึ้นชื่อเรื่องของสุขภาพและความงาม ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการก็คงจะหนีไม่พ้นกับการเข้ามาใช้บริการเพื่อรักษาปัญหา หรืออาการที่เป็นอยู่ ซึ่งในขั้นนี้จะเป็นการเมคชัวร์ให้กับลูกค้าว่าเรานั้นสามารถรักษา หรือสินค้าของเรามีสรรพคุณที่ช่วยบรรเทาอาการ หรือบำรุงได้จริง
เราแค่ต้องมีข้อมูลและบริการต่าง ๆ ขึ้นตามเว็บไซต์ หรือตามสื่อโซเชียลขอเรา แยกตามประเภทของสินค้า หรือบริการ หรือปัญหาให้เห็นชัดเจน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ รวมถึงการมีพนังงานคอยตอบคำถามของพวกเขาได้ รวมถึงการมีพนักงานคอยตอบคำถามของพวกเขา และแนะนำการใช้บริการที่ตรงจุดก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น
Step 5 : ดูแลลูกค้าเหมือนคนที่เรารัก
เมื่อพวกเขาเข้ามาเป็นลูกค้าของเราแล้ว สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือ การรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ดูแลพวกเขาให้เหมือนกับคนที่เรารัก โปรดจำไว้ว่าการรักษาฐานลูกค้าเดิม ประหยัดต้นทุนกว่าการสร้างลูกค้าใหม่ เพราะฉะนั้นเราจึงควรดูแลรักษาเขาเป็นอย่างดี
ตัวอย่างการรักษาฐานลูกค้าเช่น การทำ CRM ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษต่าง ๆ หรือมี Line@ แจ้งข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์ หรือเสนอคอนเทนต์อยู่เป็นประจำ ลูกค้าจะรู้สึกว่าพวกเขาเป็นพิเศษ และคนสำคัญ ซึ่งการทำ CRM นั้นจะสามารถช่วยให้เรารักษาฐานลูกค้าของเราไว้ได้ตลอด
Step 6 : อัพเดทข้อมูลวางแผนการตลาดสม่ำเสมอ
ถือเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ทางแบรนด์ต้องใส่ใจในข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่จะสื่อสารให้กับลูกค้าได้รับรู้ สื่อช่องทางไหนมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากน้อยเพียงไหน ช่องทางที่ดีอยู่แล้วก็ให้รักษามาตรฐานแบบนี้ไว้ ส่วนช่องทางที่ผลตอบรับน้อยหน่อยก็ให้นำมาวิเคราะห์ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งจะเป็นแนวทางในการวางแผนการตลาดของแบรนด์ต่อไปได้ว่าเราควรมุ่งไปในทิศทางไหน มีนวัตกรรม เทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาบ้าง เราสามารถที่จะแสดงจุดเด่นของเราได้อย่างไร โดยทั้งหมดก็จะส่งผลมาถึงยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นด้วยนั่นเอง
สรุป
การทำ Marketing นั้นสามารถทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักของหมู่ผู้บริโภคและสามารถทำให้อยู่รอดในวงการที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงามจำหน่ายอยู่เต็มท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม เครื่องสำอาง ครีม หรือสกินแคร์ต่าง ๆ
ซึ่งในความเป็นจริงนอกจาก Marketing จะดีแล้วนั้น คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็ต้องดีด้วย เพราะการสร้างแบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางเป็นของตัวเองสักแบรนด์ คุณภาพถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าหากการตลาดดี บรรจุภัณฑ์สวยน่าใช้แค่ไหน แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์แย่หรือไม่ได้คุณภาพ ก็ไม่อาจสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้ ดังนั้นนอกจากจะต้องทำการตลาดดีแล้ว การเลือกโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ให้ออกมามีคุณภาพก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แบรนด์จะต้องใส่ใจไม่แพ้กัน
แหล่งที่มา : taokaemai.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888