อยู่อย่างไรให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง สุขภาพดี ปลอดภัยจากโรค
ปัจจุบันเรามนุษย์ยังคงเผชิญความท้าทาย ในด้านสิ่งแวดล้อม โรคระบาด ภัยธรรมชาติ อยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า ฝุ่น PM 2.5การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 การยอมรับ เข้าใจ และปรับตัวให้สามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยนั้นจึงเป็นสิ่งที่เราทำได้เองเป็นอันดับแรก
ดังนั้นเราควรเตรียมพร้อมร่างกายให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะป่วยบ่อย หรือติดเชื้อง่าย คงระดับความเข้มแข็งของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวทางการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ได้ดังนี้
ภูมิคุ้มกัน (IMMUNITY) คือ กลไกของร่างกายที่ต้านทานต่อโรคใดโรคหนึ่ง โดยภูมิคุ้มกันอาจเกิดเพียงชั่วคราวหรือตลอดไปก็ได้ ภูมิคุ้มกันแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ตามธรรมชาติ (innate immunity/ natural immunity)
ภูมิคุ้มกันเเบบนี้มีมาตั้งเเต่เกิด โดยทารกที่มีอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ จะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันได้เอง เเต่ยังสร้างได้น้อยมาก เนื่องจากเริ่มมีการเจริญของอวัยวะน้ำเหลือง
2. ภูมิคุ้มกันโรคที่เกิดขึ้นภายหลัง (acquired immunity) เป็นภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังคลอดโดยแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
2.1 ภูมิคุ้มกันก่อเอง (active immunity) เป็นภูมิคุ้มกันที่เกิดจากร่างกายได้รับแอนติเจน หรือเชื้อโรคที่อ่อนกำลังลงซึ่งไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ โดยนำมาฉีด กิน หรือทาที่ผิวหนัง กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีหรือภูมิคุ้มกันขึ้น เช่น การฉีดวัคซีนไอกรน โปลิโอ วัณโรค ไทฟอยด์ เป็นต้น
2.2 ภูมิคุ้มกันรับมา (passive immunity) เป็นภูมิคุ้มกันที่ได้มาจากการสกัดจากเลือดของสิ่งมีชีวิต แล้วนำมาฉีดให้ร่างกายต้านทานโรคได้ทันที เช่น เซรุ่มแก้พิษงู เซรุ่มโรคพิษสุนัขบ้า บาดทะยัก คอตีบ เป็นต้น หรือได้รับภูมิคุ้มกันจากเเม่ตั้งเเต่อยู่ในครรภ์ เเละเมื่อคลอดออกมาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากน้ำนมเเม่ แต่ภูมิคุ้มกันในน้ำนมเเม่จะลดลงหลังจากคลอดได้ 6 เดือนจึงทำให้ทารกติดเชื้อได้ง่ายในระยะนี้
การรักษาระดับภูมิแรงคุ้มกันแข็งให้มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวทางการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากโรคภัยต่างๆ ได้ดังนี้
-
กินให้ได้คุณภาพ
-
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
-
หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-
เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรงด้วยวิตามินซี และอาหารเสริมอื่นๆ
กินให้ได้คุณภาพ
ถึงเราจะได้รับการบอกต่อๆ กันว่าให้ถ้าอยากสุขภาพดีต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่น้อยครั้งที่จะบอกกันว่า กินให้ครบ 5 หมู่ ต้องกินอย่างไร หลักการกินให้ครบ 5 หมู่แบบง่ายๆ มีคอนเซปต์อยู่ว่า กินให้หลากหลายกินทุกหมู่ กินข้าวได้สลับกับกินแป้ง กินผักผลไม้ให้เป็นนิสัย เนื้อสัตว์เน้นที่เนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และเลี่ยงอาหารหวานจัด เค็มจัด
แล้วเสริมด้วยอาหารที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งโดยมากจะอยู่ในผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี อาทิ ผักใบเขียวจัดหรือสีเหลืองส้ม เห็ดต่างๆ และแร่ธาตุซิลีเนียม หรือสังกะสี ที่พบในเนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม หรือถั่ว เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม เมนูคลีนเพื่อสุขภาพ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนที่มีคุณภาพจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่มีการพักผ่อนไหนจะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีเท่าการนอนหลับ เพราะการนอนหลับนั้นจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
นอกจากนี้ การนอนหลับพักผ่อนยังช่วยลดระดับความเครียด ซึ่งมีส่วนสำคัญในการลดประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย ซึ่งรวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกัน คนที่พักผ่อนไม่เพียงพอเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และยังมีโอกาสรับสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายได้มากกว่าคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
เมื่อร่างกายสะสมเอาความเครียดไว้ เจ้าความเครียดนี่แหละ ที่เป็นตัวการร้ายคอยกัดกินให้ระบบต่างๆ ในร่างกายเรารวน และยังเป็นบ่อเกิดโรคร้ายที่นึกไม่ถึงได้ด้วย ในเมื่อเรามีเวลาอยู่กับบ้านมากขึ้นแล้ว ลองหากิจกรรม งานอดิเรกหรือการฝึกทักษะต่างๆ ระหว่างที่หยุดเชื้ออยู่บ้าน
นอกจากช่วยลดความเครียดได้แล้ว ยังอาจจะเป็นการค้นพบทักษะใหม่ๆ ในตัวเองที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ยังเป็นโอกาสหรือช่องทางสร้างรายได้ใหม่ได้ด้วย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะเพิ่มการหมุนเวียนของเลือดโดยรวม ทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวถูกหมุนเวียนไปยังเซลล์ทั้งร่างกาย และทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวมีความสามารถในการเก็บกินสิ่งแปลกปลอมมากขึ้น การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ ส่งผลให้นอนหลับง่าย สดชื่น สมองปลอดโปร่ง ลดความเครียดสะสม
รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ในระยะยาว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง เบาหวาน มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงด้วยวิตามินซี และอาหารเสริมอื่นๆ
หัวใจสำคัญของการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เริ่มต้นจากร่างกายที่มีสุขภาพดี และตัวช่วยสำคัญ ก็คือ สารอาหาร แร่ธาตุ วิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินซีที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ปกติแล้วร่างกายของเราควรได้รับวิตามินซี วันละ 500 – 1,000 มิลลิกรัม ผ่านการกินผักผลไม้เป็นประจำและต่อเนื่อง
แต่เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่สลายตัวได้ง่าย ไม่สะสมในร่างกาย เป็นไปได้ที่วิตามินซีจะสลายตัวไปก่อนที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้ทัน ประกอบกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ การรับประทานผักผลไม้ที่ไม่หลากหลาย การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือในภาวะเครียด ก็ส่งผลให้ร่างกายขาดวิตามินซีได้เช่นกัน
เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินซีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและสามารถอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น และรักษาระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง มีประสิทธิภาพในการรับมือกับเชื้อโรคต่างๆ ทั้งในช่วงที่ไวรัส COVID-19 ยังระบาดอยู่ และพร้อมเผชิญกับเชื้อโรคอื่นๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอในอนาคตนั้น
วิตามินซีจึงเป็นสารสำคัญหลักที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน เพราะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวสามารถกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีตรวจวัดภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโรคของร่างกาย
เราสามารถรู้ระดับภูมิคุ้มกันโรคได้จากการตรวจ 3 แบบคือ
1.การตรวจการทำงานของเม็ดเลือดขาวแบบละเอียด (CD Profile)
เป็นการวิเคราะห์การทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งก็คือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแบบละเอียด
2.การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
เพื่อหาความผิดปกติของส่วนประกอบของเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และประเมินความเข้มข้นของเลือด ซึ่งอาจบอกถึงภาวะที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
3.การตรวจวัดระดับวิตามินดี
วิตามินดีช่วยในการเสริมสร้างการพัฒนาเซลล์ ความแข็งแกร่ง และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อทุกชนิดรวมถึงโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่
สรุป
การรักษาระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง มีประสิทธิภาพในการรับมือกับเชื้อโรคต่างๆ ทั้งในช่วงที่ไวรัส COVID-19 ยังระบาดอยู่ หรือโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นั้นเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ ดังนั้นเรามาเริ่มต้นสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงภายในร่างกายตั้งแต่วันนี้ กันดีกว่า
โดย #โควิก โรงงานอาหารเสริมแบบ OEM รับผลิตอาหารเสริมตามความต้องการของลูกค้า พร้อมด้วยบริการแบบ One – Stop Service ที่บริการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ทางโรงงานยังรับผลิตเครื่องสำอาง รับผลิตสบู่ และรับผลิตยาสมุนไพรอีกด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
นิตยสารหมอชาวบ้าน
รับงานสร้างแบรนด์และรับผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสำอาง โรงงานรับผลิตอาหารเสริม ท่านที่ต้องการเป็นเจ้าของสินค้า ท่านสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นที่ โรงงานอาหารเสริม บริษัท โควิก เคทท์ ด่วนเบอร์โทร 02-521-7888 หรือ สามารถกรอกข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ที่ อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ คลิกที่นี่