รูปแบบครีมกันแดด รู้ไว้สร้างแบรนด์ปัง
แสงแดด คือสิ่งที่ให้ความสว่างให้ตอนกลางวัน ซึ่งแสงแดดนั้นมีประโยชน์คือเสริมวิตามินดีให้ร่างกายโดยการตากแดดในตอนเช้าที่แสงแดดอ่อน ๆ แต่เมื่อเลยช่วงเช้าไปแสงแดดก็จะกลายเป็นศัตรูกับผิวหนังของเราทันที เนื่องจากแสงแดดในประเทศไทยนั้นค่อนข้างแรง สามารถทำร้ายผิวของเราได้โดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อมีสิ่งที่ทำร้ายผิวพรรณของคนเรา ก็ย่อมมีสิ่งที่ช่วยปกป้องผิวพรรณเช่นกัน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ ครีมกันแดด
โดยทุกวันนี้ผู้คนนิยมทาครีมกันแดดกันมากขึ้น เนื่องจากต้องการปกป้องผิวพรรณจากแสงแดดและรังสียูวีต่าง ๆ ทำให้แบรนด์ครีมกันแดดกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น จนทำให้มีนักธุรกิจหรือผู้คนมากมายที่อยากมีแบรนด์ครีมกันแดดเป็นของตัวเอง แต่ก่อนจะไปทำการผลิตครีมกันแดดออกมาจำหน่ายนั้น คุณควรรู้ก่อนว่าครีมกันแดดมีกี่รูปแบบ เพื่อให้สร้างแบรนด์ครีมกันแดดออกมาดีที่สุด
รูปแบบครีมกันแดด
ครีมกันแดดมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างกันไป รวมไปถึงข้อดี-ข้อเสียด้วย โดยรูปแบบครีมกันแดดมีดังนี้
- เนื้อครีม
- เนื้อเจล
- เนื้อโลชั่น
- สเปรย์
- ผสมรองพื้น
ครีมกันแดดเนื้อครีม
ครีมกันแดดประเภทนี้เป็นเนื้อครีมกันแดดสีขาว หรือในปัจจุบันก็จะมีสีต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นที่สามารถพบได้ท้องตลาดทั่วไปไม่ว่าจะเป็นสีเนื้อ, สีชมพู หรือสีเขียวอ่อน ครีมกันแดดประเภทนี้เป็นรูปแบบที่หลาย ๆ คน นิยมเริ่มต้นในการผลิตครีมกันแดด
โดยครีมกันแดดรูปแบบเนื้อครีมมีข้อดีคือ สามารถปรับเนื้อให้ข้นหนืด ให้บางเบา หรือให้มีความมันน้อยได้ง่าย ใส่สารต่าง ๆ ที่ละลายในน้ำ และไม่ละลายน้ำก็ได้ เรียกได้ว่าปรับได้กันค่อนข้างง่ายทำให้เนื้อบางเบาได้ ส่วนข้อเสียคือส่วนใหญ่มักไม่ค่อยกันน้ำ ไหลย้อยมากับเหงื่อหรือน้ำได้ง่าย แต่ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ครีมกันแดดประเภทนี้ติดมากขึ้น แต่อาจจะต้องแลกกับความมัน เหนียวเหนอะที่เพิ่มขึ้น
ครีมกันแดดเนื้อเจล
ครีมกันแดดเนื้อเจล จะมีความคล้ายกับครีมกันแดด แต่ทำให้รู้สึกบางเบากว่า โดยหลาย ๆ คนนิยมทำแบรนด์ครีมกันแดดเนื้อเจลกันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีข้อดีคือ เนื้อเจลจะรู้สึกบางเบา แต่ก็มีข้อเสียมักไม่ค่อยกันน้ำ และบางสูตรก็มีความมันมากขึ้น ครีมกันแดดรูปแบบเจลจึงไหลย้อยมากับเหงื่อ หรือน้ำได้ง่ายเหมือนกับครีมกันแดดเนื้อครีม
ครีมกันแดดเนื้อโลชั่น
รูปแบบของครีมกันแดดประเภทนี้จะมีความแตกต่างออกไป มีทั้งเป็นโลชั่นที่มีความเป็นครีมอยู่ ไปจนถึงเนื้อที่เป็นคล้าย ๆ แป้งน้ำ ซึ่งมีข้อดีคือ เนื้อเหลว ทำให้รู้สึกทาแล้วไม่ค่อยมัน นอกจากนี้ยังสามารถเติมสารช่วยดูดซึม / ช่วยเรื่องความมันบนใบหน้าได้ และยังได้ความรู้สึกบางเบาอยู่
แต่ข้อเสียคือ เนื้อครีมตกตะกอน หรือแยกชั้นได้ง่ายเพราะตัวกันแดดที่เป็น Physical Sunscreen ตกตะกอน ดังนั้น ข้อเสียอีกอย่าง ก็คือ เวลาจะทำแบรนด์ครีมกันแดดประเภทนี้ต้องเขย่า ซึ่งจริง ๆ การเขย่าด้วยแรงมืออาจจะไม่เพียงพอ ต้องใช้พวกลูกเหล็กเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อเพิ่มแรงเขย่าให้การแตกตัวของสารกันแดดพวก Physical Sunscreen กระจายตัวเพียงพอเวลาจะใช้ ข้อเสียสุดท้าย คือ เขย่าไม่ดี สารกันแดดพวก Physical Sunscreen จะกองอยู่บริเวณก้น ๆ ของครีม
ครีมกันแดดสเปรย์
รูปแบบของครีมกันแดดประเภทนี้ เป็นการนำเนื้อครีมกันแดดประเภทต่าง ๆ มาบรรจุในกระป๋องสเปรย์ซึ่งบรรจุสารผลักดันที่มีสถานะเป็นแก๊ส ซึ่งเมื่อกดหัวสเปรย์สารผลักดันจะทำหน้าที่ผลักดันแก๊สและครีมกันแดดออกมาให้เป็นละอองฝอย ๆ บนหน้าหรือผิว
ครีมกันแดดสเปรย์มีข้อดีคือ เป็นรูปแบบที่ดูดี ค่อนข้างทันมัย ดูใช้งานง่าย ทำให้หลากหลายแบรนด์เลือกที่จะผลิตออกมา แต่ข้อเสียก็มีเยอะพอสมควรเหมือนกันนั่นก็คือต้นทุนสูง เนื่องจากมีต้นทุนของเนื้อครีมกันแดดและค่าอัดกระป๋อง การเลือกหัวฉีดและรูปแบบของครีมกันแดดที่นำมาบรรจุ รวมถึงสารผลักดันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะกระทบต่อลักษณะการพ่นละอองฝอยของครีมกันแดดออกมา นอกจากนี้เวลาฉีดบนหน้า อาจจะรู้สึกแสบตาเนื่องจากเราไม่สามารถควบคุมการกระจายของละอองฝอยไม่ให้เข้าตาได้ ถึงแม้ว่าจะหลับตา
ครีมกันแดดผสมรองพื้น
เนื้อครีมกันแดดประเภทนี้ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ค่อนข้างฮิต โดยมีชื่อเรียกที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดดใยไหม ครีมกันแดดแป้งโฟม ครีมกันแดดแป้งโฟม ครีมกันแดดเนื้อมูส ครีมกันแดดเนื้อรองพื้น CC cream หรือ แม้แต่ Concealer ก็เข้าข่ายเป็นเนื้อครีมกันแดดประเภทนี้เช่นกัน
ข้อดีของครีมกันแดดประเภทนี้ เนื่องจากผสมเนื้อรองพื้นเข้าไปในครีมกันแดด ทำให้เกลี่ยง่าย ปกปิดริ้วรอย รอยด่างดำ ได้ค่อนข้างดี ประเภททาแล้วหน้าใสทันทีหลังทา เหมือนทาแป้งไปด้วยในตัว ลดภาระการแต่งหน้าไปอีกขั้นตอนหนึ่ง
แต่ข้อเสียคือเหมือนทาแป้ง บางคนที่ไม่ค่อยชอบการแต่งหน้าหนัก ๆ ก็จะรู้สึกว่าหนักหน้า อีกทั้งครีมมีหลายเฉดสีในท้องตลาด ดังนั้นจึงต้องเลือกสีของครีมให้แมทช์กับสีผิว เพื่อลดปัญหาหน้าลอย ข้อเสียอีกอย่างคือ อาจจะรู้สึกมันได้ระหว่างวัน แต่ปัจจุบันมีพัฒนาเนื้อออกมาหลากหลายเพื่อทำให้สูตรทาแล้วรู้สึกเหนอะหนะน้อยลงในระหว่างวันได้
สรุป
รูปแบบครีมกันแดดนั้นมีมากมาย แต่ละรูปแบบก็จะมีความแตกต่างรวมไปถึงข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ที่สนใจจะผลิตครีมกันแดดควรศึกษารูปแบบของครีมกันแดดแต่ละรูปแบบให้ดี เพื่อเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผลิต สามารถสร้างแบรนด์ให้ปังและเป็นที่รู้จักกันได้อย่างง่ายดาย
แหล่งที่มา : www.premacare.co.th
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888