อาหารเสริมและยาที่ควรมีติดบ้านช่วง COVID-19
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีท่าทีจะดีขึ้น และยังน่ากังวลอยู่ แม้ว่าในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มจะมีการคลายล็อกดาวน์ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังต้องอยู่บ้าน หรือ Work From Home กันอยู่ ฉะนั้นในช่วงสถานการณ์อย่างนี้การมียาหรืออาหารเสริมติดบ้านเอาไว้ในยามฉุกเฉินก็เป็นสิ่งที่ควรทำ
การมียาหรืออาหารเสริมเอาไว้ติดบ้านนั้น ถือเป็นการดูแลสุขภาพของตัวเองอย่างหนึ่ง เพราะถือแม้จะไม่ได้ออกจากบ้านบ่อย แต่ก็อาจจะพบเจอผู้คนอื่นๆ ได้เช่น ไรเดอร์ส่งอาหารเป็นต้น ดังนั้นจึงไม่อาจรู้ได้เลยว่าเรานั้นจะติดเชื้อเมื่อไหร่ ดังนั้นการมียาและอาหารเสริมที่ช่วยในการดูแลในช่วงที่ COVID-19 ระบาดติดบ้านเอาไว้ จะเป็นการช่วยทั้งตัวเองและคนในบ้าน โดยอาหารเสริมและยาที่ควรมีติดบ้านช่วง COVID-19 มีดังต่อไปนี้
อาหารเสริมที่ควรมีติดบ้านช่วง COVID-19
ถ้าหากร่างกายของเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และไม่ได้เดินทางไปไหน ทำให้โอกาสที่จะติดเชื้อนั้นก็จะมีน้อย นอกจากนั้นการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงยังช่วยไม่ให้ร่างกายป่วยง่ายอีกด้วย ดังนั้นอาหารเสริมที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิกัน จึงเป็นอาหารเสริมที่ควรมีติดบ้าน ซึ่งมีดังนี้
วิตามินซี (Vitamin C)
เป็นวิตามินที่ได้รับความนิยมมากไม่ว่าจะในเรื่องของผิวพรรณ และสุขภาพ ซึ่งมีหลายคนนิยมบอกกันว่าเมื่อเป็นหวัดให้ทานวิตามิน เพราะวิตามินซีช่วยป้องกันหวัดได้ โดยวิตามินมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้นกันในร่างกาย ป้องกันไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรค
วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับเข้าไปเท่านั้น โดยความต้องการวิตามินซีต่อวันตามข้อกำหนดปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ.2563 แยกได้เป็นต่อนี้
- เด็กอายุ 1-8 ปี ควรได้รับ 25-40 มิลลิกรัมต่อวัน
- เด็กและวัยรุ่นช่วงอายุ 9-18 ปี ควรได้รับ 60-100 มิลลิกรัมต่อวัน
- วัยผู้ใหญ่อายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 85-100 มิลลิกรัมต่อวัน
วิตามินเอ (Vitamin A)
วิตามินเอ วิตามินที่มีจุดเด่นในการดูแลดวงตา แต่จริง ๆ แล้ววิตามินเอยังมีประโยชน์มีมากมายไม่ว่าจะเป็น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น, เสริมสร้างกระดูก ฟันและเล็บให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร, ระบบทางเดินหายใจและระบบปัสสาวะ ผิวและผมแข็งแรง ช่วยบรรเทาโรคที่เกี่ยวกับไทรอยด์ได้
สังกะสี (Zinc)
สังกะสี หรือ Zinc นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นกลไกหลักในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว และทำให้ T-cell ซึ่งเป็นเซลล์ที่ตอบสนองการทำงานของภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคติดเชื้อได้
วิตามินดี (Vitamin D)
วิตามินดี ไม่เพียงแค่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิตามินที่มีบทบาทกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือดขาวโมโนไซต์และมาโครฟาจซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญในการช่วยลดการอักเสบ ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ
กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3)
กรดไขมันโอเมก้า 3 ปกติแล้วจะช่วยเสริมสร้างเซลล์ประสาทในสมอง จอประสาทตา เสริมสร้างการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ลดการอักเสบซ่อนเร้นที่เกิดจากความเครียด ยังมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวอีกด้วย
ยาที่ควรมีติดบ้านช่วง COVID-19
ยาต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการป่วย ควรมีติดบ้านเอาไว้ตลอดเวลาไม่ใช่เพียงช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 เท่านั้น เพราะคนเราสามารถป่วยหรือไม่สบายได้ตลอดเวลา ดังนั้นมียาติดไว้ที่บ้านจะช่วยให้เราหายป่วยไวขึ้น โดยยาที่ควรมีติดบ้านช่วง COVID-19 ได้แก่
ยาประจำตัว
สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรวางแผนเรื่องของยาให้มียาทายต่อเนื่อง 1-2 เดือน เพื่อลดการเดินทางไปโรงพยาบาล และลดการกำเริบของโรค
ยาพาราเซตามอล
โดยให้กินยาพาราเซตามอลทันทีเมื่อมีไข้ หรือมีไข้สูงเกิน 37 องศาเซลเซียส นอกจากอาการ COVID-19 การมีไข้สูงอาจทำให้เกิดอันตรายได้เช่น หัวใจเต้นเร็ว ร่างกายอ่อนเพลีย หรือร่างกายขาดน้ำ
ยาฟ้าทะลายโจร
เป็นยาช่วยบรรเทาอาการที่ไม่รุนแรง แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันการป่วยจาก COVID-19 ใช้ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเกิดโรครุนแรง หรือผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ใช้เมื่อเริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อย เช่น คัดจมูก มีน้ำมูก ไม่ควรกินเกินวันละ 180 มิลลิกรัม แบ่งกินวันละ 3-4 ครั้ง
ยาแก้ไอแบบเม็ด Dextromethorphan
ถ้ามีอาการไอเยอะ สามารถทานได้ แต่ควรทานตามขนาดที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และทานเฉพาะผู้ที่ยังไม่มีอาการปอดอักเสบ เนื่องจากสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบแล้ว หลายคนจะมีอาการไอมากกว่าปกติ รวมถึงมีเสมหะจำนวนมาก การทานยาแก้ไอลักษณะนี้ เหมือนเป็นการไปกดอาการไอมากจนเกินไป ทำให้ร่างกายจะขับเสมหะออกมาตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้
ยาลดน้ำมูก Chlorpheniramine หรือ CPM
เป็นยาเพื่อช่วยลดเสมหะ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น สามารถบรรเทาอาการได้ ในคนที่มีอาการเยอะ
ข้อควรระวัง : หากเป็นผู้ป่วยโรคไต หรือ โรคตับบางอย่างที่มีข้อห้ามในการใช้ก็ต้องระมัดระวัง
ยาแก้แพ้ Fexofenadine
เป็นยาที่มีฤทธิ์ช่วยลดน้ำมูก สามารถมีติดบ้านได้ แต่ให้ทานเท่าที่จำเป็น หรือใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ผงเกลือแร่ ORS (Oral Rehydration Salts)
ผงเกลือแร่ หรือน้ำตาลเกลือแร่ (Electrolyte Powder Packet) คือ สารที่ช่วยทดแทนการสูญเสียเกลือแร่ มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มพลังงาน เกลือแร่ และน้ำในร่างกาย รวมทั้งป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำ และเกลือแร่จากอาการท้องเสีย หรือ อาเจียน
ยาสามัญประจำบ้านอื่น ๆ
เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
สรุป
การมียาและอาหารเสริมติดบ้านเอาไว้ ไม่ใช่เพียงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหรือบรรเทาอาการป่วยในช่วง COVID-19 เท่านั้น แต่สามารถทานได้ตลอดเพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ไม่ป่วย หรือเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดในอนาคตได้ ซึ่งการทานอาหารเสริมหรือยาบางตัวนั้นอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ที่มีควรเชี่ยวชาญก่อนบริโภคเพื่อความปลอดภัย
แหล่งที่มา
www.rama.mahidol.ac.th
www.samitivejhospitals.com
vichaivej-nongkhaem.com
www.supremeilasik.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888