เทรนด์ตลาดสมุนไพรยุค COVID-19
สมุนไพรนั้นเป็นสิ่งที่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน โดยถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายอาทิ อาหารเสริม เครื่องสำอาง สกินแคร์ และยาแผนโบราณ เมื่อเวลาผ่านไปความนิยมในสมุนไพรก็เริ่มลดน้อยลง และมีการแทนที่ด้วยวัตถุดิบที่มีความน่าสนใจใหม่ ๆ จนเรียกว่าไปวิกฤตของสมุนไพรเลยทีเดียว
แต่เมื่อปี 2019 ได้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั่วทั้งโลกเกิดปัญหาในการดูแลรักษาตัวเองจากเชื้อไวรัสดังกล่าว ด้วยเหตุการณ์นั้นถือเป็นการพลิกจากวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมสมุนไพร ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น และไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้นที่หันมาสนใจสมุนไพรเพื่อดูแลสุขภาพ แต่ทั่วโลกหลาย ๆ ประเทศ กำลังศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาสมุนไพรที่จะสามารถช่วยป้องกัน รักษา ลดการแพร่ระบาดขอโควิด-19
โดยนอกจากเรื่องการดูแลสุขภาพ ลดการแพร่ระบาดแล้ว ยังมีความสนใจในสมุนไพรในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในทางวันนี้ทางโควิก เคทท์ได้นำเทรนด์ตลาดสมุนไพรยุคโควิด-19 มาให้เหล่าเจ้าของแบรนด์ได้รู้ และนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของตนเอง
ดันสมุนไพรไทยป้องกันโควิด-19
ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) สวก. กล่าวในงานเสวนา ศักยภาพของสมุนไพรไทยในการป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโควิด-19 ว่า สวก.ได้ให้การสนับสนุนทุนวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรมาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน ได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 580 กว่าล้านบาท และมีงานวิจัยมากกว่า 200 โครงการ
สมุนไพรที่ให้ทุนได้แก่ กระชายดำ ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ไพล รวมถึงตำรับยาต่าง ๆ เช่น ตำรับยาห้าราก เพื่อพัฒนาสมุนไพรทั้งระบบ ค้นหาสรรพคุณ และทำยาให้มีใช้เพียงพอในประเทศ เกิดความมั่นคงของยา สุขภาพ รวมถึงยกระดับความสามารถในการแข่งขันของตลาดสมุนไพรของประเทศด้วย
“การพัฒนาสมุนไพรไทยให้เติบโตได้ต้องเน้นไปที่ต้นน้ำ การปลูก การพัฒนาสายพันธุ์โดยใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการรับรองวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ขณะที่กลางน้ำ ต้องจัดทำข้อกำหนดต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับตำราสมุนไพร และตำรับยาแผนโบราณ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในวงการสุขภาพและค้าขายในต่างประเทศ อีกทั้งต้องพัฒนายาใหม่ และสารอาหารที่มีสรรพคุณป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโรค มีทั้งการวิจัยทั้งในเชิงนโยบาย และมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ตลาดอุตสาหกรรมไทยตรงกับความต้องการของตลาดโลก” ดร.สุวิทย์ กล่าว
ในปี 2564 สวก. ได้สนับสนุนพัฒนาตำรับยาห้าราก เพื่อศึกษาประสิทธิภาพยับยั้งทำลายในการป้องกันโควิด-19 และให้ทุนกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาสเปรย์พ่นปากสารสกัดจากยาฟ้าทะลายโจร
3 เทรนด์สมุนไพรโลกสู่พาณิชย์
ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ และอาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สมุนไพรในกระแสโลกตอนนี้ มีอยู่ 3 เทรนด์ คือ
- สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน
- สมุนไพรลดความเครียด
- สมุนไพรที่ช่วยเสริมการนอน
ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ล้วนเกิดจากความต้องการในการใช้สมุนไพรเพื่อป้องกัน รักษา และฟื้นฟูโควิด-19 ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการก้าวสู่ตลาดสมุนไพรระดับโลกต้องศึกษาวิจัย ผลิตผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร อาหารเสริมที่สอดคล้องกับเทรนด์โลก
โดยสมุนไพรไทยนั้นมีมากมาย สมุนไพรแต่ละตัวที่มีประโยชน์ในเรื่องต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งสมุนไพรที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน
การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นสิ่งที่เหล่าผู้บริโภคต่างมีต้องการอย่างมากในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และยาสมุนไพร เนื่องจากหากมีภูมิคุ้มกันที่ดี ร่างกายแข็งแรง จะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ หรือหากเกิดติดเชื้อขึ้นมา อาการก็จะไม่รุนแรงเท่าคนที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง โดยสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันมีดังนี้
- ฟ้าทะลายโจร
- ขมิ้นชัน
- มะกรูด
- ขิง
- ตำรับตรีผลา
- กลุ่มที่มีวิตามินซีสูงเช่น ใบเหลียง มะระขี้นก มะขามป้อม
สมุนไพรลดความเครียด
ในแต่ละวันคนเราพบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งการทำงาน การใช้ชีวิต ภาระหนี้สิ้นต่าง ๆ ทำให้ผู้คนเกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งพอมาเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การทำงาน เศรษฐกิจ ยิ่งส่งผลให้ผู้คนเกิดความเครียดง่ายขึ้นกว่า ดังนั้นสมุนไพรลดความเครียดจึงกลายเป็นในสมุนไพรที่มีความต้องการมากในตอนนี้ สมุนไพรลดความเครียดมีดังต่อไปนี้
- ใบสะระแหน่
- ผลลำไย
- ใบขี้เหล็ก
- ดอกคาโมมายล์
สมุนไพรช่วยเสริมการนอน
บ่อยครั้งที่ผู้คนประสบปัญหานอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หลับไม่สนิท ซึ่งจะส่งผลให้ในระหว่างวันเกิดการอ่อนเพลีย สมองไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ จนร่างกายเกิดการสะสมทำให้เป็นโรคนอนไม่กลับตามมา สมุนไพรที่ช่วยในการนอนหลับ จึงกลายเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่มีปัญหาด้านนี้ โดยสมุนไพรที่ช่วยเสริมการนอนมีดังต่อไปนี้
- กระถิน
- มะระ
- กระเทียม
- โหระพา
- ขี้เหล็ก
- ขิง
- มะกรูด
ตำรับยาวิจัยต่อยอดรักษาโควิด-19
ภก.รศ.ดร.สุรพจน์ กล่าวต่อว่าการผลิตพัฒนายาสมุนไพร จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ฉะนั้นการศึกษาวิจัยอันนำไปสู่เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ จะเป็นการพิสูจน์ทางการแพทย์ มีผลชัดเจนในคนไข้ว่ายามีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เป็นการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การผลิต การสกัดและผลิตภัณฑ์
กลไกยกระดับวิจัยสมุนไพรไทย
ภก.วราวุธ เสริมสินสิริ ผู้อำนวยการกองผลิตภัณฑ์สมุนไพร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่าการจะยกระดับงานวิจัยด้านสมุนไพร เพื่อให้การศึกษาวิจัยนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ท้องตลาดนั้น กลไกที่ทำอยู่ตอนนี้ดีระดับหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวมองว่าควรมีการปรับปรุงเพิ่มเติมเชื่อมโยงกฎระเบียบ ซึ่งต้องมีทั้ง 3 กลไก คือ
- กลไกแรก อยากให้มีระบบจัดประเภทตั้งแต่เริ่มแรกของการวิจัย ว่าจะผลิตเป็นประเภทไหน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดต่าง ๆ ในแต่ละประเภทนั้น
- กลไกสอง ควรเติมเต็มข้อมูล องค์ความรู้ในแต่ละสมุนไพรให้ชัดเจนว่าสอดคล้องกับการขออนุญาตจากอย. หรือการกำหนดโรคในการรักษา
- กลไกสาม ควรมีกลไกระบบพี่เลี้ยงเข้าไปช่วยดูแลการผลิต การขออนุญาต ช่วยออกแบบงานวิจัย เมื่อผลงานวิจัยออกมาจะได้ขออนุญาตจากอย. หรือสามารถผลักดันเข้าสู่ บัญชียาแห่งชาติ ช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านยา สุขภาพ และเพิ่มมูลค่าให้แก่สมุนไพร
สรุป
สมุนไพรไทย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ถูกใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาสมุนไพร และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าอุตสาหกรรมสมุนไพรจะเจอวิกฤตในเรื่องการมีสารสกัดหรือวัตถุดิบที่มีความแปลกใหม่เข้ามาแทนที่ แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้สมุนไพรกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ซึ่งเทรนด์สมุนไพรที่ผู้บริโภคต้องการในตลาดตอนนี้คือ สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเครียด และช่วยเสริมการนอน
แหล่งที่มา
www.bangkokbiznews.com
www.rajavithi.go.th
today.line.me
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888