เลือกกลุ่มเป้าหมายอย่างไร ให้ตรงใจแบรนด์
ในการสร้างแบรนด์แต่ละแบรนด์นั้น ไม่ว่าจะเป็นสร้างแบรนด์อาหารเสริม เครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือแม้แต่ยาสมุนไพร สิ่งที่เจ้าแบรนด์ควรโฟกัสมากที่สุดก็คือ ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดสิ่งต่าง ๆ ในแบรนด์ได้เช่น ผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม สารสกัด ประสิทธิภาพ ไปจนถึงแพจเกจจิ้ง เป็นต้น
โดยในปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก จากเมื่อก่อนที่ผู้บริโภคจะสนใจเพียงสรรพคุณ ของผลิตภัณฑ์ตัวนั้น ๆ ไม่มีองค์ประกอบใดเข้ามาเสริม หรืออาจมีบ้างแต่เพียงเล็กน้อย ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มากกว่าสรรพคุณ หรือประสิทธิภาพ แต่มององค์ประกอบโดยรวมของผลิตภัณฑ์ด้วยอาทิ สารสกัดตัวนี้ช่วยในเรื่องที่ต้องการจริงหรือไม่, เป็นสารสังเคราะห์หรือสารธรรมชาติ, ทานหรือใช้แล้วเป็นอันตรายหรือไม่, แพจเกจจิ้งดูน่าสนใจพอจะยอมจ่ายหรือไม่ เป็นต้น
เนื่องจากในปัจจุบันอาหารเสริม สกินแคร์ หรือยาสมุนไพรต่างก็มีแบรนด์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมามากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคจึงต้องมองหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองมากที่ในบรรดาแบรนด์นั้น ด้วยเหตุนี้การเลือกกลุ่มเป้าหมายจึงสำคัญในการสร้างแบรนด์ เพราะจะทำให้รู้ถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและนำไปผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายได้อย่างตรงตามความต้องการที่สุด
แต่จะทำอย่างไรให้แบรนสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพราะผู้บริโภคนั้นสามารถแยกออกไปเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ถือว่าเป็นงานหนักสำหรับแบรนด์เลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้ทาง Kovic เลยจะมาแนะนำวิธีเลือกกลุ่มเป้าหมาย เลือกอย่างให้ให้ตรงใจแบรนด์ โดยมีดังต่อไปนี้
เลือกจากเพศ
สิ่งแรกที่จะช่วยให้การเลือกกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้ดีที่สุดนั่นก็คือ เลือกเพศของกลุ่มเป้าหมาย เพราะการเลือกเพศนั้นไปนำไปสู่ขั้นตอนต่าง ๆ ในการเลือกกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากในแต่ละเพศก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อเลือกเพศได้แล้วแบรนด์จะสามารถโยนไอเดียเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ หรือความกังวลที่เพศเหล่านั้นพบเจอ และนำมาเป็นตัวเลือกในการผลิตสินค้าของแบรนด์ในการช่วยเหลือปัญหาเหล่านั้นได้
แล้วทำไมไม่ได้ทำให้สินค้าของแบรนด์สามารถใช้ได้กับทุกเพศไปเลยล่ะ หากเป็นอย่างนั้นจะสามารถตอบสนองความต้องการได้ดีกว่าไหม คำตอบคือได้หากทางแบรนด์ต้องการมันก็จะมีสินค้าบางประเภทที่สามารถบริโภคได้ทั้งทุกเพศ ทุกวัยอย่างอาหารเสริมวิตามินต่าง ๆ แต่สำหรับในมุมของแบรนด์เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์นั้นอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นหากสินค้าที่ทางแบรนด์กำลังแบรนด์เป็นปัญหาที่ต้องเจาะลึกจริง ๆ การแยกเพศก็เป็นเรื่องที่ควรทำ
เลือกจากอายุ
ผู้บริโภคนั้นมีหลายช่วงอายุ ซึ่งแต่ละช่วงอายุก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นช่วงอายุจะเป็นตัวที่ช่วยมองเห็นสินค้าที่ต้องการผลิตได้ง่ายไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสินค้า หรือสรรพคุณต่าง ๆ อย่างเช่นในวัยเด็ก อาจจะเน้นไปทางอาหารเสริมบำรุงร่างกายหรือสมอง โดยรูปแบบอาจจะสิ่งที่ทานได้ง่ายในวัยนี้เช่นรูปแบบเยลลี่ วัยรุ่นที่อยู่ในช่วงเจริญเติบโตเสริมสร้างกล้ามเนื้อต่าง ๆ ก็จะเป็นเวย์โปรตีนที่สามารถช่วยในเรื่องนี้ หรือวัยผู้ใหญ่ที่เริ่มมีริ้วรอยต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นสกินแคร์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ไปถึงวัยผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อกระดูก ก็อาจจะเป็นคอลลาเจนเสริมที่ช่วยบำรุงในเรื่องข้อเข่า เป็นต้น
เลือกจากกลุ่มอาชีพ
เพราะแต่ละอาชีพมีการมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะต้องเจอกับแสงแดดเป็นประจำ บางคนอาจจะต้องใช้สมองในการทำงานตลอดเวลา การเลือกจากอาชีพก็จะเป็นอีกทางที่ช่วยให้การผลิตสินค้าของแบรนด์ออกมาตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
เลือกจากรายได้
การเลือกจากรายได้ถึงว่าเป็นส่วนที่สำคัญ เพราะว่ารายได้ของกลุ่มเป้าหมายนั้นจะสามารถบ่งบอกกำลังซื้อสินค้าของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากกว่าจะได้สินค้าสักตัวออกมาจำหน่ายนั้นมีต้นทุนต่าง ๆ มากมาย เมื่อได้สินค้าออกมาราคาขายก็ต้องตั้งให้คุ้มกับทุนที่เสียไป ยิ่งถ้าหากเลือกใช้สารสกัดที่หายากก็อาจทำให้ทุนยิ่งสูง เมื่อวางขายสินค้าแล้วก็ต้องสามารถสร้างยอดขายได้ ถ้าหากตั้งราคาขายไว้สูง แต่กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีรายได้น้อยจนไม่สามารถซื้อได้ ทางแบรนด์อาจเกิดการขาดทุนได้
เลือกจากการศึกษา
กลุ่มผู้บริโภคที่มีการศึกษาสูง มีการศึกษามาดีนั้นว่าสินค้าที่ตนต้องการคืออะไร ผู้บริโภคเหล่านั้นมักต้องการรายละเอียดที่เกี่ยวกับสินค้าอย่างเช่น ผลิตที่ไหน ใช้สารสกัดอะไร เป็นสารออแกนิกหรือไม่ สารตัวนี้ช่วยเรื่องของอะไรได้บ้าง ทานคู่กับสินค้าตัวอื่นได้หรือไม่ ดังนั้นการเลือกกลุ่มเป้าหมายจากการศึกษา ทางแบรนด์ก็จะต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าให้ครบถ้วน
เลือกจากพฤติกรรมความชอบ
การเลือกจากพฤติกรรมความชอบนั้น ถือเป็นสิ่งที่สามารถโดนใจกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด เพราะกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มนั้นมีความชอบหรือพฤติกรรมที่คล้าย ๆ กัน การที่มีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ไปกับพฤติกรรมของพวกเขาได้ พวกเขายินดีที่จะจ่ายอย่างไม่ลังเล เช่นกลุ่มเป้าหมายที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการครีมกันแดดที่ทาแล้วไม่รู้สึกว่าเหนียวเหนอะแหนะตัว เมื่อมีสินค้าที่เป็นครีมกันแดดที่ทาซึมไว ไม่เหนียวตัวออกมาจำหน่าย สินค้าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายนี้ก่อนใคร
สรุป
การเลือกกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นั้น เกิดจากรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ การทำงาน รายได้ หรือพฤติกรรม เมื่อได้ข้อมูลเหล่านั้นมาทำการรวบรวมและวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้คือ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องแบรนด์ต้องการอย่างแท้จริง เพื่อนำไปสู่การผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
แหล่งที่มา : www.beautycosmet.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888