สาหร่ายทะเลสีแดง ดูแลสุขภาพกระดูกและข้อต่อ
กระดูก ถือเป็นอวัยวะที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย และที่สำคัญกระดูกนั้นมีความสำคัญในการค้ำจุนโครงสร้างร่างกาย รวมไปถึงการเคลื่อนไหวอีกด้วย ดังนั้นกระดูกจึงเป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานอย่างหนัก และบวกกับอายุที่มากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ความหนาแน่นของมวลกระดูกที่ลดลง การอักเสบตามข้อจนเกิดเป็นอาการปวด จนไปถึงเกิดโรคที่เกี่ยวกับข้อต่อและกระดูกได้
ดังนั้นการดูแลกระดูกและข้อต่อ จึงเป็นสิ่งเจ้าของธุรกิจต่างให้ความสนใจและหันมาทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอาการเสริมที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ อาหารเสริมแคลเซียม ซึ่งนอกจากแคลเซียมที่มีความโดดเด่นเกี่ยวกับกระดูกแล้ว ยังมีสารสกัดอีกหนึ่งชนิดที่มีความโดดเด่นในด้านนี้ไม่แพ้กัน และมักถูกใช้ในโรงงานอาหารเสริมอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือ สาหร่ายทะเลสีแดงสายพันธุ์ Lithothamnion spp.
สาหร่ายทะเลสีแดง Lithothamnion spp. คืออะไร
Lithothamnion spp. เป็นสาหร่ายทะเลสีแดงที่อยู่ในตระกูล Corallinaceae ซึ่งสาหร่ายสายพันธุ์นี้จะเจริญเติบโตอยู่บริเวณชายฝั่งที่ปราศจากมลพิษของประเทศไอร์แลนด์ และมีโครงสร้างที่เป็นรูพรุนจึงทำให้ย่อยง่าย เนื่องจากนี้สาหร่ายทะเลสีแดงยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการจำนวน 74 ชนิด โดยแร่ธาตุหลักได้แก่แคลเซียม และแมกนีเซียม จึงมักถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาหารเสริมที่มีประโยชน์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารเสริมเกี่ยวกับกระดูก
สาหร่ายทะเลสีแดงกับสุขภาพกระดูก
มีการตรวจสอบขนาดใหญ่เกี่ยวกับอาหารเสริมและสุขภาพกระดูกในสตรีวัยหมดระดู โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 300 ซึ่งจะได้รับการประเมินในช่วง 24 เดือน สำหรับการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นของกระดูกและการหมุนเวียนของกระดูก โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่กลุ่มที่ได้รับยาหลอก กลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยสาหร่ายทะเลสีแดงเท่านั้น และกลุ่มที่ได้รับการรักษาด้วยสาหร่ายทะเลสีแดง ร่วมกับพรีไบโอติกสายสั้น
จากกากทดลองสรุปได้ว่ามีการลดลงของการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูกในช่วง 24 เกือนในสตรีที่มีภาวะกระดูกพรุนในช่วงเริ่มต้นของการทดลองที่รับประทานสาหร่ายทะเลสีแดง ร่วมกับพรีไบโอติกสายสั้น นอกจากนี้ยังมีการลดลงของการหมุนเวียนของกระดูกในสตรีที่รับประทานสาหร่ายทะเลสีแดงเพียงอย่างเดียว และรับประทานสาหร่ายทะเลสีแดงร่วมกับพรีไบโอติกสายสั้น ซึ่งการทดลองทั้งหมดนี้สามารถบ่งชี้ถึงสุขภาพ
สาหร่ายทะเลสีแดงยังมีส่วนช่วยการหยุดชะงักของการเผาผลาญแคลเซียมในนักกีฬาชั้นยอดที่นำไปสู่การสูญเสียความหนาแน่นของกระดูกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีการทดสอบที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มนักกีฬา และสตรีวัยหมดระดู โดยการใช้การเพิ่มขึ้นของ PTH ในซีรีมที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายเป็นตัวกลางในการดูดซึมแคลเซียม พบว่าทั้ง 2 กลุ่มที่ได้รับการประทานสาหร่ายทะเลสีแดงในเครื่องดื่มเกลือแร่ก่อนและระหว่างการออกกำลังกายสามารถลดการเผาผลาญแคลเซียมที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายได้
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าแร่ธาตุที่นอกเหนือจากแคลเซียมมีความสำคัญในประโยชน์ของสาหร่ายทะเลสีแดงที่มีต่อสุขภาพกระดูกได้รับการอธิบายโดย Bae et al ในปี 2554 โดยใช้โมเดลหนูที่ตัดรังไข่เพื่อเลียนแบบวัยหมดประจำเดือน ซึ่งงานวิจัยนี้พบว่า แคลเซียมและแมกนีเซียมที่ได้จากสาหร่ายทะเลสีแดงนั้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่าแหล่งแคลเซียมและแมกนีเซียมทางเลือกในด้านการรักษาความหนาแน่นของกระดูก
สาหร่ายทะเลสีแดงกับข้อต่อและการอักเสบ
รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับฤทธิ์ในการต้านการอักเสบของสาหร่ายทะเลสีแดง ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัดในการทดลองนำร่องที่ควบคุมด้วยยาหลอกแบบ Double-blind สองครั้งในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมที่ดำเนินการที่ Minnesota Applied Research Centre
โดยในครั้งแรกของการทดลองจากอาสาสมัคร 70 คนที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมระดับปานกลางถึงรุนแรงได้รับการสุ่มให้เป็นหนึ่งใน 4 กลุ่มที่รักษาเป็นเวลา 12 สัปดาห์ได้แก่
- กลุ่มแรกได้รับกลูโคซามีนซัลเฟต
- กลุ่มที่สองได้รับกลูโคซามีนซัลเฟต + สาหร่ายทะเลสีแดง
- กลุ่มสามได้รับสาหร่ายทะเลสีแดงเท่านั้น
- กลุ่มสี่ได้รับยาหลอก
ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับการประเมินโดยใช้วิธีการให้คะแนนความเจ็บปวดของ WOMAC และการทดสอบการเดิน 6 นาที พบว่าผู้ป่วยที่รับประทานสาหร่ายทะเลในช่วงเวลาของการทดลองรายงานว่ามีอาการปวดน้อยลงในทุกกลุ่มของ WOMAC ในขณะที่ผู้ที่รับประทานกลูโคซามีนซัลเฟตรายงานว่าอาการบางอย่างดีขึ้น แต่ไม่มีอาการตึง
โดยรวมแล้วสาหร่ายทะเลสีแดง มีประสิทธิภาพดีกว่ากลูโคซามีนซัลเฟต และการรวมกันของกลูโคซามีนซัลเฟตกับสาหร่ายทะเลสีแดงส่งผลให้คะแนน WOMAC ไม่ดีข้นอย่างมีนัยสำคัญ และไม่ได้ดีไปกว่ายาหลอก นอกจากนี้คะแนนการทดสอบการเดิน 6 สำหรับผู้ที่ป่วยที่รับได้สาหร่ายทะเลสีแดงได้รับการปรับปรุงย่างมีนัยสำคัญ เมื่อสิ้นสุดการทดลองสามารถเดินได้ไกลขึ้นประเมิน 101 ฟุต ในขณะที่ผู้ป่วยที่รับประทานกลูโคซามีนซัลเฟตสามารถเดินได้ไกลขึ้นเพียง 56 ฟุตเท่านั้น
ส่วนในการทดลองครั้งที่ 2 ในผู้ป่วย 22 รายที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมระดับปานกลางถึงรุนแรงได้รับการสุ่มให้เป็นหนึ่งใน 2 กลุ่มที่ได้รับการรักษาเป็นเวลา 12 สัปดาห์ที่แบ่งออกเป็น กลุ่มที่ได้รับสาหร่ายทะเลสีแดง และ Placebo โดยได้รับการประเมินในขณะที่กำลังลดการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือ NSAID อย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อลดการใช้ลง 50% พบว่าผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับสาหร่ายทะเลสีแดงมีคะแนนความเจ็บปวด WOMAC ดีขึ้น ระยะการเคลื่อนไหวของข้อต่อแบบฟาสซิฟ และระยะการทดสอบการเดิน 6 นาทีดีขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก
และในการทดลองที่ 3 ที่ดำเนินการในไอร์แลนด์ระบุว่าการเติมเปลือกสนและสารสกัดจากชาเขียวลงในสาหร่ายทะเลสีแดง ช่วยเพิ่มผลต้านการอักเสบของสาหร่ายทะเลสีแดง ในโรคข้อเข่าเสื่อม โดยเห็นได้จากระดับของไซโตไคน์ที่อักเสบในซีรัมที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
สรุป
สาหร่ายทะเลสีแดงสีแดงสายพันธุ์ Lithothamnion spp. เป็นสายพันธุ์ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองนั้นมีประโยชน์อย่างต่อสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาพกระดูกและข้อต่อ เช่นการลดการสูญเสียความหนาแน่นของมวลกระดูก หรือการต้านการอักเสบของข้อต่อเป็นต้น ด้วยเหตุนี้สารสกัดสาหร่ายทะเลสีแดงจึงเป็นนิยมในการนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการสร้างแบรนด์อาหารเสริมเกี่ยวกับกระดูกในปัจจุบัน
แหล่งที่มา : aquamin.com
โควิก เคทท์ เป็นโรงงานผลิตอาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตเครื่องสำอาง สกินแคร์ ยาสมุนไพรและสารสกัดสมุนไพร ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
บริการผลิตอาหารเสริมครบวงจร ที่มีคุณภาพสูง มีความปลอดภัยและมาตรฐานที่ดีเยี่ยม เพื่อให้คุณลูกค้าได้เป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในรูปแบบที่ง่ายและไม่ต้องลงทุนสูง
จากแนวคิด Complete OEM Health & Beauty Ecosystem โควิก เคทท์ ได้นำความเชี่ยวชาญ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากสารสกัดธรรมชาติและสมุนไพร มาต่อยอดเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมการผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของสินค้าต่อผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจผลิตอาหารเสริมกับทาง #KovicKate ติดต่อได้ที่
โทร : 02-521-7888